กายภาพบําบัด คลายเครียด การรักษาสุขภาพจิตที่เหมาะกับคนยุคใหม่
กายภาพบําบัด คลายเครียด ได้จริงหรือ? อีกหนึ่งเทคนิคที่หลาย ๆ คนอาจยังไม่ทราบว่าสามารถช่วยให้เราบรรเทาความเครียดได้ ซึ่งเมื่อพูดถึง “ความเครียด” นั้น ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นเรื่องของสุขภาพจิตที่ถ้าหากผู้ประสบปัญหาพบกับภาวะเครียดที่รุนแรง ก็จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางเพื่อช่วยคลายอาการเครียดให้ดีขึ้นอย่างถูกจุด ซึ่งนอกจากนี้ “กายภาพบําบัด” ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่ช่วยได้เช่นกัน โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้นตามมาดูไปพร้อม ๆ กัน
กายภาพบําบัด คลายเครียด มีวิธีไหนบ้าง มาดูกัน!!
เชื่อว่าการประสบปัญหา “ภาวะเครียด” เป็นสิ่งที่พบเยอะในวัยทำงาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศหรือมีธุรกิจส่วนตัวก็ตาม ปัญหาด้านความเครียดนั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน อย่างไรก็ตาม ความเครียด นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะยังมีปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ ตามมาได้อีก เช่น การรับประทานอาหารได้น้อยลง การพักผ่อนที่ไม่มีคุณภาพ หรืออารมณ์ที่แปรปรวนอยู่บ่อย ๆ ดังนั้น การทำกายภาพบำบัดจึงเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจในการแก้ไขปัญหาความเครียดในระยะยาว
ไขข้อสงสัย! การทำกายภาพบำบัดแก้ไขปัญหาความเครียดได้อย่างไร?
ต้องบอกก่อนว่า “ความเครียด” ไม่ได้ส่งผลต่อจิตใจและร่างกายเท่านั่น แต่ยังส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจอีกด้วย ทำให้การหายใจของผู้ประสบปัญหานั้นมีระยะที่สั้นลง หรือที่เรารู้จักกันในอาการหายใจไม่อิ่ม รวมถึงภาวะเครียดในผู้ประกอบอาชีพพนักงานออฟฟิศที่พฤติกรรมเสี่ยง เช่น การนั่งผิดท่า นั่งนาน ๆ โดยไม่ได้มีการขยับร่างกาย ก็ยิ่งส่งผลให้มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ บางคนอาจจะมีอาการปวดร้าวขึ้นศีรษะ ขมับ กระบอกตา เวียนศีรษะ ซึ่งเป็น “อาการออฟฟิศซินโดรม” อีกด้วย
จากปัญหาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการส่งผลต่อการหายใจหรือการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ก็สามารถแก้ไขและบรรเทาปัญหาได้ด้วยการทำกายภาพบำบัดทั้งสิ้น ซึ่งการทำกายภาพบำบัดนั้นเป็นแนวทางการแก้ไขที่ช่วยให้อาการเครียดถูกบรรเทาลงในระยะยาวเพียงแค่ผู้ประสบปัญหาเข้ารับการดูแลจากนักกายภาพบำบัดหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะช่วยได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
กายภาพบำบัดเพื่อคลายความเครียด มีกี่แบบ?
จากผลกระทบของความเครียดที่ได้กล่าวมาทั้งหมด ทุกคนคงเห็นได้แล้วว่าถูกแตกและแยกย่อยออกมาได้เป็นหลายอาการด้วยกัน ดังนั้น กายภาพบำบัด ที่สามารถนำมาใช้ได้ก็ถูกแบ่งออกไปตามอาการเช่นเดียวกัน ประกอบด้วย…
กายภาพบำบัดปรับพฤติกรรมเสี่ยง
คุณเป็นคนที่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องนานเกิน 1 ชั่วโมง ลองปรับเปลี่ยนด้วยหยุดพักสายตาทุก ๆ 15 นาที เพื่อหาจุดที่สบายต่อการมองเห็นมากที่สุด รวมทั้งจัดท่านั่งให้เหมาะสม ไม่นั่งห่อไหล่ หรือ ไม่ยื่นคางเพื่อจ้องจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ซึ่งหากลองปรับได้อย่างสม่ำเสมอจะทำให้อาการปวดเมื่อกล้ามเนื้อเรื้อรังลดลงได้
กายภาพบำบัดฝึกสติและควบคุมการหายใจ
ให้เริ่มต้นที่การฝึกหายใจเข้าออกช้า ๆ ลึก ๆ โดยใช้กล้ามเนื้อกระบังลมจะช่วยให้สามารถสูดอากาศเข้าปอดได้มากขึ้นและควบคุมให้หัวใจเต้นช้าลง จะช่วยให้สมองเราแจ่มใสขึ้นเพราะได้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองมากขึ้นนั่นเอง โดยทำซ้ำประมาณ 3 – 5 ครั้งต่อรอบ ฝึก 3 – 5 รอบต่อวันก็จะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นตามลำดับ
กายภาพบำบัดการประคบ
ส่วนใหญ่ต้องใช้เป็นการประคบอุ่น / ประคบร้อน โดยเฉพาะในเคสที่มีอาการปวดคอ บ่า หรือสะบัก ให้ประคบอุ่นบริเวณที่ปวดประมาณ 20 นาที ก็จะช่วยให้สบายตัวมากขึ้น กล้ามเนื้อคลายความตึง ลดอาการปวดได้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม วิธีกายภาพบำบัดต่าง ๆ ดังกล่าว เป็นการทำกายภาพแบบง่าย ๆ ที่สามารถเริ่มได้ด้วยตนเอง หากทำแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษานักกายภาพบำบัด เพื่อตรวจประเมิน รักษาด้วยวิธีการทางกายภาพบำบัดที่เหมาะสมกับตนเอง ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือไม่ควรลืมหาต้นตอของความเครียดที่แท้จริงเพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดด้วย เพราะหากปล่อยไว้นานอาจทำให้เกิดอาการเครียดเรื้อรังได้และอาจรักษาได้ยากขึ้นด้วยนั่นเอง
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วิดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวิดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- กายภาพบําบัด กล้ามเนื้ออักเสบ รักษาได้ผลไหม ต้องทำต่อเนื่องหรือเปล่า?
- ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
- กล้ามเนื้ออักเสบ กินอะไรดี ให้ฟื้นฟูไว กลับมาใช้งานได้ปกติ