ตื่นนอนแล้วปวดหัว เกิดจากอะไรเป็นสัญญาณอันตรายจากร่างกายหรือเปล่า?
ตื่นนอนแล้วปวดหัว เชื่อว่าเป็นอาการที่หลาย ๆ ท่านกำลังประสบปัญหาอยู่แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใดแน่ แล้วหากเป็นแบบนี้ไปนาน ๆ หมายถึงว่าร่างกายกำลังส่งสัญญาณอะไรหรือเปล่า ซึ่งต้องบอกก่อนว่าอาการปวดหัวหลังจากการตื่นนอนนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัญหาทางด้านสุขภาพและพฤติกรรมต่าง ๆ ด้วย โดยแนวทางการแก้ไขปัญหานี้สามารถทำด้วยวิธีไหนได้บ้าง บทความนี้จาก Newton Em Clinic มีคำตอบ
ตื่นนอนแล้วปวดหัว เกิดจากอะไร แก้ไขด้วยวิธีไหนได้บ้าง?
เราต่างทราบกันดีว่า “การนอน” เป็นการพักผ่อนที่สำคัญที่สุดของมนุษย์เรา ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าการนอน ยิ่งนอนเยอะ ๆ ยิ่งดี แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะการนอนมากเกินไปก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการเวสียนหัว ปวดหัวหลังการตื่นนอนได้เช่นกัน ฉะนั้นจึงต้องปรับสมดุลให้ดี อย่างไรก็ตาม เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาการปวดหัวนี้จะแก้ไขและบรรเทาอย่างไรให้ดีขึ้น มาลองหาคำตอบไปพร้อม ๆ ยกัน
อาการปวดหัวหลังตื่นนอน เกิดจากอะไร…
สาเหตุของอาการปวดหัวทุกเช้า อาจเกิดได้จากหลากหลายปัจจัยรวมกัน ตั้งแต่ สาเหตุจากโรคที่มีอยู่ก่อน พฤติกรรมการนอน สุขลักษณะนิสัยการนอนหลับ สภาพแวดล้อม ลักษณะที่นอน หมอนสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตของผู้ป่วยเลยทีเดียวซึ่งก็ส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่างทีเดียว
สาเหตุของอาการปวดหัวหลังการตื่นนอน
สาเหตุของการปวดหัวจากการนอนเกิดจากหลายปัจจัย ดังนี้…
- พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการนอนน้อยเกินไปอาจทำให้มีอาการปวดหัว โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัวอย่างไมเกรนนั้น มีโอกาสสูงที่อาการจะกำเริบมากกว่า
- นอนเยอะเกินไป การนอนเกินกว่า 9 ชั่วโมงต่อคืน จะส่งผลต่อฮอร์โมนบางตัว ทำให้เลือดไหลไปยังสมองน้อยลง จึงทำให้เกิดอาการปวดหัวได้
- มีภาวะความเครียดสะสม เกิดการตึงตัวของกล้ามเนื้อต่างๆ เช่น ศีรษะ คอ บ่า ไหล่ อาจนำไปสู่การปวดศีรษะและอาจส่งผลต่อการนอนได้อีกด้วย
แนวทางการแก้ไขเมื่อมีาการปวดหัวหลังตื่นนอน
ขั้นตอนที่ง่ายที่สุดคือบีบนวดคลายกล้ามเนื้อ บริเวณขมับ หน้าผาก เบ้าตา เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้…
1.นวดตรงกลางระหว่างคิ้ว
ใช้นิ้วชี้หรือนิ้วที่ถนัดกดนวดด้วยแรงปานกลาง บริเวณหน้าผาก ตรงกลางระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง นอกจากจะเป็นการกดจุดแก้ปวดหัวแล้ว ว่ากันว่าช่วยให้ความดันโลหิตไหลเวียนดีขึ้นอีกด้วย
2. นวดบริเวณบ่า
ใช้ปลายนิ้วมือขวาบีบไหล่ซ้ายไล่จากบ่าเข้าหาท้ายทอย กดนวดให้รู้สึกผ่อนคลายคุณก็จะสามารถบรรเทาอาการปวดหัว และความอ่อนล้าจากการทำงานหนักได้ดี
3.นวดบริเวณขมับ
สำหรับจุดนี้ให้ใช้มือแตะด้านบนของหัว แล้วกางนิ้วโป้งลงกดบริเวณด้านขมับ หรือด้านบนของหู นวดวนด้วยแรงระดับกลาง 30 วินาที จะช่วยบรรเทาในเรื่องอาการเมื่อยล้าทางสายตา อาการวิงเวียนหูอื้อ และลดอาการปวดหัวได้ดี
4.นวดใต้คิ้วทั้งสองข้าง
ช่วยในการผ่อนคลายอาการตึงบริเวณใบหน้าซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของบริเวณศีรษะ อีกทั้งยังเป็นจุดที่มีเส้นประสาทรวมกันอยู่มาก จึงทำให้การนวดบริเวณนี้สามารถช่วยในการผ่อนคลายอาการแข็งตึงของใบหน้า ทำให้หายใจสะดวก โล่งจมูก สามารถทำได้บ่อย ๆ หรือทำเป็นอีกหนึ่งอิริยาบถที่เราเปลี่ยนท่าทางขณะนั่งทำงานนาน ๆ ก็ได้
5.นวดเนื้อคอด้านหลัง
ตำแหน่งกล้ามเนื้อหลังคอเป็นตำแหน่งที่มีจุดกดเจ็บเป็นอันดับแรก ๆ ของกล้ามเนื้อเลยก็ว่าได้ นอกจากกล้ามเนื้อ Trapezius ที่กล่าวไปแล้วยังมีกล้ามเนื้ออีกตัวที่ชื่อ Leavator Scapulae ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่มีปัญหาความตึงตัวและส่งผลให้เกิดอาการปวดคอได้เช่นกัน ซึ่งการนวดกดจุดในตำแหน่งนี้จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อคอคลายตัวได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อและส่งผลให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นได้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หากตื่นนอนแล้วปวดหัวจนเป็นอาการเรื้อรัง วิธีที่ดีที่สุดคือ การเดินทางมาพบแพทย์เฉพาะทางด้านการนอนหลับ แพทย์จะค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัว ซักประวัติ ตรวจร่างกาย รวมทั้งวิเคราะห์เจาะลึกความผิดปกติระหว่างนอนหลับเพื่อให้การรักษานั้นตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วิดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวิดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- กายภาพบําบัด กล้ามเนื้ออักเสบ รักษาได้ผลไหม ต้องทำต่อเนื่องหรือเปล่า?
- ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
- กล้ามเนื้ออักเสบ กินอะไรดี ให้ฟื้นฟูไว กลับมาใช้งานได้ปกติ