รักษาด้วยเลเซอร์- วิธีทางกายภาพบรรเทาอาการปวด
“รักษาด้วยเลเซอร์” หนึ่งในวิธีการรักษายอดฮิตของผู้ป่วยที่เข้ารับการทำกายภาพบำบัด ซึ่งตามจริงแล้วการรักษาด้วยกายภาพบำบัดนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยการรักษาด้วยการใช้เลเซอร์มักจะเป็นวิธีการที่ตอบโจทย์ให้กับใครหลายๆ คน เพราะเป็นการบรรเทาอาการลดความอักเสบของกล้ามเนื้อทั้งชัาวคราวและเรื้อรังได้ อีกทั้งยังมีอาการบาดเจ็บอื่นๆ ที่สามารถรักษาร่วมด้วยนั่นเอง
“รักษาด้วยเลเซอร์” คืออะไร รักษาโรคอะไรได้บ้าง
การรักษากล้ามเนื้อด้วยเลเซอร์ คือ การใช้คลื่น Shock wave ไปกระตุ้นการรับรู้ความรู้สึกแรงกดและการรับสัมผัสที่อยู่บริเวณผิวหนัง และกระตุ้น mechanoreceptor ที่อยู่ในกล้ามเนื้อและข้อต่อ โดยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของความตึงตัวของกล้ามเนื้อ และยังช่วยเพิ่มการสร้างสารต้านอาการปวด (endorphins) ซึ่งทำให้ผลดังกล่าวคงอยู่นานนั่นเอง
ประโยชน์ของการใช้เลเซอร์รักษาโรคต่างๆ
-
หายปวดไปกว่าครึ่งทันที หลังการบำบัดปวด
-
ใช้เวลาน้อยในการรักษา เช่น 2-5 นาทีต่อจุดหรือบริเวณหนึ่งๆ
-
ไม่ต้องรักษาต่อเนื่องทุกวัน อาจเว้นวันหรือสองวันครั้ง บางกรณีสัปดาห์ละครั้ง
-
จำนวนครั้งการรักษาน้อย คือ 3-5 ครั้ง สำหรับอาการปวดระยะเฉียบพลัน และ 10-15 ครั้งสำหรับอาการปวดเรื้อรัง
-
บำบัดได้ทุกๆระยะของความเจ็บปวด ทั้งระยะเฉียบพลัน กึ่งเฉียบพลัน และเรื้อรัง โดยเฉพาะระยะเฉียบพลัน
-
บำบัดลงลึกถึงตำแหน่งของต้นตอความเจ็บปวดได้ลึกถึง 3-4 ซม ดังนั้น จึงบำบัดอาการปวดจากการกดทับรากประสาท ที่บริเวณคอและเอวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
กลไลการบำบัดเป็นไปโดยธรรมชาติ
“รักษาด้วยเลเซอร์” ในทางกายภาพสามารถรักษาโรคอะไรได้บ้าง?
จากที่ได้กล่าวไปข้างต้น ว่าการรักษาความเจ็บปวดด้วยเลเซอร์นั้น คือการปล่อยคลื่นพลังงาน แบบ synchonizeที่ ความยาวคลื่น 808 nm ให้ผลลดบวมและอักเสบ และ 905nm เพื่อให้ผลระงับอาการปวดสามารถลงผ่านผิวหนังสู่เนื้อเยื่อในตำแหน่งที่ลึกตามเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพ ดังนั้น โรคที่ผู้ป่วยมักจะได้รับการรักษาประเภทนี้ก็จะประกอบด้วยผู้ป่วยจากกลุ่มต่างๆ ดังนี้
1. กลุ่มผู้ป่วยในระบบกล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ ได้แก่
- กล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อ บาดเจ็บ ฟกช้ำ บวมแดง อักเสบ เคล็ดขัดยอก ตามบริเวณคอ บ่า ไหล่ แขน ศอก มือ หลัง เอว เข่า เท้า
- เอ็นข้อไหล่อักเสบ ไหล่ติดระยะเริ่มแรก
- เอ็นข้อศอก เอ็นข้อมืออักเสบ
- ข้อนิ้วมือเสื่อม อักเสบ
- มือชาจากโรคอุโมงค์ข้อมือ
- นิ้วล็อค
- ข้อเข่าเสื่อม กล้ามเนื้อ เอ็น ผังผืดรอบเข่าอักเสบ
- เอ็นร้อยหวายอักเสบ
- ข้อเท้าพลิก เคล็ด อักเสบ
- ผังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ
- กล้ามเนื้อเอวและสะโพกอักเสบ
- อาการปวดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือกระดูกเสื่อมกดทับเส้นประสาททั้งที่คอและเอว
2. กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับเส้นประสาทโดยตรง
ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วย อาการปวดและชา ได้แก่
• มือเท้าชาจากปลายเส้นประสาทอักเสบเนื่องจากโรคเบาหวาน • มือเท้าชาจากปลายเส้นประสาทอักเสบเนื่องจากผลแทรกซ้อน จากยา เคมีบำบัด • ปวดชาแขนขา ในระยะฟื้นหลังจากบาดเจ็บเส้นประสาท • ปวดชา กล้ามเนื้อยึดเกร็งในผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตจาก โรคหลอดเลือดสมอง หรือจากการบาดเจ็บไขสันหลัง • อาการปวดประสาทจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5
3. กลุ่มผู้ป่วยโรคที่มีอาการบวมของแขนขาและอื่นๆ ได้แก่
• อาการบวมช้ำจากการบาดเจ็บ รวมทั้งเลือดออกใต้ผิว • รอยฟกช้ำจากการบาดเจ็บ • แผลเบาหวาน • แผลกดทับ • แผลจากโรคหลอดเลือด เป็นต้น ปัจจุบันมีการใช้เลเซอร์ในทางการแพทย์หลายด้าน ทั้งในความงาม การผ่าตัด มาจนถึงมีการประยุกต์ใช้เลเซอร์ ในการลดปวดและอักเสบที่มีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อ และกระดูก ซึ่งการรักษาดังกล่าวพบได้ทั่วไป ในแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด และเมื่อพิจารณาจากข้อมูลต่างๆ ด้านบนแล้ว จึงไม่แปลกใจว่าทำไมวิธีนี้จึงเป็นแนวทางการรักษาอาการปวดยอดนิยมจนถึงปัจจุบัน
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- “ปวดหลังเรื้อรัง” พฤติกรรมที่ทำให้คุณปวดหลังแบบไม่รู้ตัว
- บริหารข้อเท้า 5 ท่าง่ายๆ สำหรับผู้กำลังฟื้นฟูหลังการบาดเจ็บ
- “ฝังเข็ม” วิธีรักษาทางกายภาพบำบัดของโรคออฟฟิศซินโดรม