นั่งหลังตรงแล้วปวดหลัง เกิดจากอะไร แก้ไขยังไงดี?
นั่งหลังตรงแล้วปวดหลัง หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพราะส่วนใหญ่เรามักได้ยินว่าการนั่งหลังค่อม นั่งหลังงอ นั้นจะทำให้ปวดหลังกระดูกสันหลังไม่ดี ให้ประคองหลังให้ตรงไว้ จะได้ลดอาการปวดลง แต่ทำไม ในบางคน ถึงแม้จะนั่งหลังตรงแต่ก็ยังปวดหลังอยู่ดี ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าอาการเช่นนี้เกิดจากอะไรกันแน่ หากเป็นแล้วจะแก้ไขอย่างไรดี?
นั่งหลังตรงแล้วปวดหลัง เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณของโรคอันตรายหรือเปล่า?
อาการ “ปวดหลัง” ไม่ใช่อาการที่ถูกจำกัดไว้แค่กับกลุ่มผู้สูงอายุอีกต่อไป เนื่องจากปัจจุบัน การทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นับเป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็ทำกัน การทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานและไม่ได้ลุกยืนยืดเส้นยืดสายนี้เอง ที่มีผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการปวดหลัง หรือหนักไปกว่านั้นคือนำไปสู่โรคร้ายต่างๆ ที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลังได้
สาเหตุของอาการ ปวดหลังเพราะนั่งหลังตรง
การนั่งหลังตรงไม่ได้เซฟคุณจากอาการปวดที่บริเวณหลังเสมอไป เพราะถ้าหลังตรงแบบเกร็งเกินไป จนกลายเป็นการเกร็งโดยไม่รู้ตัว ก็จะทำให้เกิดอาการปวด แถมยังทำให้หลังแอ่นได้ด้วย ประกอบกับการนั่งเป็นเวลานานๆ ทั้งการนั่งผิดท่า นั่งนานเกินไปโดยไม่เปลี่ยนท่า นั่งบิดตัว นั่งเกร็ง ล้วนแล้วแต่เป็นต้นเหตุของอาการปวดที่บริเวณด้านหลังได้ และยิ่งหากมีความเครียดบวกเข้ามาด้วย ก็จะเกิดการเกร็งและทำให้ปวดมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อม หรือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้ ภาวะนี้เกิดขึ้นได้จากสาเหตุต่างๆ เช่น การนั่งนานๆ โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบทเป็นประจำ การยกของหนัก หรือเกิดได้จากพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ ซึ่งทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงบริเวณหมอนรองกระดูกน้อยลงและทำให้หมอนรองกระดูกของเรานั้นเสื่อมเร็วก่อนเวลาอันควร
แนวทางการป้องกัน
ในเมื่อเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องนั่งทำงานหน้าคอมอยู่เป็นประจำ แต่เราก็สามารถมีวิธีป้องกัน อาการปวดหลังหรือภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้ โดยวิธีง่ายๆ คือ
1. นั่งในท่าที่ตัวตรงแต่ยังคงความสบาย ช่วยลดการปวดหลัง
ไม่เกร็งจนตัวตรงเกินไป ขาวางเสมอพื้น หากรู้ตัวว่าเริ่มเกร็งเมื่อไหร่ หรือเริ่มปวดหลัง ให้ผ่อนคลายโดยทันที อันนี้สำคัญมากเมื่อร่างกายของเราถูกวางให้ท่าที่ผ่อนคลายและสบาย หลังจะไม่เกร็งและไม่ก่อเกิดภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
2. เลือกเก้าอี้ในการนั่งทำงานให้เหมาะสมกับสรีระของตัวเอง
ควรหลีกเลี่ยงเก้าอี้แบบที่เป็นสปริงเอนได้ เพราะถึงแม้จะนั่งสบายแต่เก้าอี้แบบนี้จะไม่มีการรองรับแผ่นหลังได้ดีเท่าที่ควร หรือจะหาตัวช่วยเป็นหมอนเล็กๆ เพื่อเอาไว้หนุนหลังด้วยก็ดี ให้หลังอยู่ในระดับพอดีกับผนังพิงเก้าอี้ช่วยลดอาการปวดหลังและโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้
3. หมั่นบริหารร่างกายด้วยการยืดเส้นยืดสายอยู่เสมอ
หากนั่งนานๆหรือเริ่มปวดหลัง ก็ลุกขึ้นมาบิตไปบิดมา ยืดกล้ามเนื้อคอ หมุนคอ ก้มเงยหน้า เอียงซ้ายและขวา ก้มหน้าเงยหน้า โดยแต่ละท่าค้างไว้ 10 วินาที จากนั้นก็มาบริหารส่วนหลังเพื่อเป็นการยืดเส้นลดภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และให้ไม่เมื่อยด้วยการก้มตัวให้หน้าอกชิดหัวเข่า และค้างไว้ประมาณ 10 วินาที
4. จัดการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้เข้าที่
ลดการปวดหลัง โดยเริ่มจากการปรับระดับคีย์บอร์ด ควรวางให้อยู่ระดับข้อศอกและข้อมือ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องยกแขนให้เมื่อย ตั้งจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่สูงพอดีกับระดับสายตา เพื่อให้สะดวกในการมองและทำให้ไม่เมื่อยจนเกินไป หลีกเลี่ยงการปวดหลังจนทำให้เกิดเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อย่างไรก็ดี โรคนี้สามารถป้องกันได้ เพียงแค่เราใส่ใจกับกิจวัตรประจำวันให้มากขึ้น ปรับท่านั่งให้ถูกสุขลักษณะ ปรับอุปกรณ์การทำงานให้อยู่ในตำแหน่งที่พอดี นอกจากนี้หากเกิดอาการปวดบริเวณไหล่ หรือหลัง ทายาหรือรับประทานยาแล้วไม่หาย ก็ควรรีบเข้าพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ทราบปัญหาอย่างทันท่วงทีนั่นเอง
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- ปวดเอวเวลานอน-สาเหตุการนอนไม่หลับ แก้ยังไงดี
- “ปวดหลังเรื้อรัง” 6 พฤติกรรมที่ทำให้คุณปวดหลังแบบไม่รู้ตัว
- “ฝังเข็ม” วิธีรักษาทางกายภาพบำบัดของโรคออฟฟิศซินโดรม