นวดแก้อาการปวดสะโพก ร้าวลงขา อาการยอดนิยมของคนชอบนั่งนาน
นวดแก้อาการปวดสะโพก ร้าวลงขา เป็นวิธีบรรเทาอาการอย่างหนึ่งที่ผู้ป่วยหลายๆ คนชอบทำ เนื่องจากเป็นแนวทางการบรรเทาอาการปวดที่เห็นผลได้อย่างชัดเจนและรวดเร็วที่สุด โดยอาการปวดสะโพกร้าวลงขานั้น เป็นอาการปวดที่เริ่มต้นบริเวณช่วงเอวหรือสะโพก และมีความปวดร้าวไปถึงช่วงขาด้านหลัง ในบางรายอาจร้าวไปถึงน่องหรือเท้า ซึ่งภาวะเช่นนี้อาจทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการชาและอ่อนแรงได้นั่นเอง
นวดแก้อาการปวดสะโพก ร้าวลงขา หรือ อาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท
หรือชื่อทางการแพทย์ว่า Pirifomis Syndrome เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากกล้ามเนื้อก้นมัดลึก เรียกว่า กล้ามเนื้อ Perifomis ตึงไปกดทับเส้นประสาท Sciatic nerve ที่ออกมาจากกระดูกสันหลังส่วนเอว แล้วทอดผ่านใต้กล้ามเนื้อมัดนี้ เพื่อส่งสัญญาณประสาทไปเลี้ยงขา จึงทำให้เกิดอาการปวดร้าวลงขา บางคนอาจมีอาการชา และอ่อนแรงได้
กลุ่มอาการปวดสะโพกร้าวลงขา อาจไม่ได้เป็นเพราะหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาทเสมอไป
ในบทความนี้จะขอแยกแยะอาการบาดเจ็บออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกจะเป็นอาการปวดที่เกิดจากบริเวณหลัง และอีกกลุ่มหนึ่งคืออาการปวดที่ไม่ได้เกิดจากบริเวณหลัง
กลุ่มอาการปวดที่เกิดจากบริเวณหลัง
- โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาท (Herniated nucleus pulposus)
เป็นอาการที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้ที่มีอาการปวดหลังร้าวลงขา เพราะกระดูกสันหลังบริเวณนี้รับน้ำหนักมาก และมีการเคลื่อนไหวค่อนข้างเยอะกว่ากระดูกสันหลังส่วนอื่นๆ ทำให้หมอนรองกระดูกอาจจะเกิดการแตกปลิ้นออกมาจนกดเบียดเส้นประสาท โดยจะมีอาการปวดหลังช่วงเอวต่อกับสะโพก ร่วมกับปวดร้าวลงขา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นที่ขาข้างใดข้างหนึ่ง อาจมีอาการชาหรืออ่อนแรงร่วมของขาหรือปลายเท้าร่วมด้วยได้ มักพบในผู้ป่วยอายุระหว่าง 20-50 ปี โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้คือการทำงานที่ต้องยกของหนัก น้ำหนักตัวมาก การสูบบุหรี่ การบิดตัวหรือก้มหลังอย่างรวดเร็วและรุนแรง เป็นต้น
- โรคกระดูกสันหลังเสื่อมกดทับเส้นประสาท หรือโรคช่องโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ (Spinal stenosis)
กรณีนี้ส่วนใหญ่มักพบในผู้สูงอายุ หรือที่เรียกกันว่า ‘กระดูกทับเส้นประสาท’ โดยอาจจะมาด้วยอาการปวดหลังร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่ง หรืออาจเป็นทั้งสองข้างก็ได้ ร่วมกับมีอาการชาหรืออ่อนแรงที่ขา โดยจะมีอาการมากขึ้นเวลายืนหรือเดินไปสักระยะหนึ่ง ทำให้ต้องหยุดเพื่อนั่งพัก เมื่อได้พักแล้วความปวดก็จะทุเลาลง ภาวะนี้เกิดจากความเสื่อมของกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูก และข้อต่อ ทำให้เกิดการทรุดตัวหรือมีกระดูกที่งอกโตขึ้น จนเป็นสาเหตุให้เกิดการกดเบียดทับเส้นประสาท
- กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (Piriformis Syndrome)
ตำแหน่งกล้ามเนื้อบริเวณสะโพกด้านหลังที่เรียกว่า Piriformis Muscle มีความสำคัญตรงที่กล้ามเนื้อนี้จะอยู่ในชั้นลึกติดกับเส้นประสาท Sciatica หากเกิดความผิดปกติที่กล้ามเนื้อ Piriformis หรือเกิดมีพังผืดในบริเวณโดยรอบ อาจทำให้มีการเบียดทับเส้นประสาท Sciatica Nerve จะทำให้เกิดลักษณะอาการปวดตื้อๆ หน่วงๆ สะโพกด้านหลังร้าวลงขาได้ โดยอาการจะเป็นมากขึ้นเวลาที่นั่งนาน เดินหรือยืนมากๆ สาเหตุของโรคนี้อาจเกิดจากการนั่งทำงานนานๆ ในท่าที่ไม่เหมาะสม การบาดเจ็บจากการใช้งานหรือเล่นกีฬา การวิ่งหรือเดินระยะทางไกลๆ เป็นต้น โรคกล้ามเนื้อหนีบเส้นประสาทพบได้ไม่บ่อย โดยจำเป็นต้องตรวจแยกโรคอื่นๆ ที่มีลักษณะอาการคล้ายๆ กันออกไปก่อน เช่น โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท โรคกระดูกเสื่อมกดทับเส้นประสาท เป็นต้น
- กล้ามเนื้อแฮมสตริงอักเสบ
เกิดจากกล้ามเนื้อส่วนที่ต่อระหว่างสะโพกไปถึงหัวเข่า (Hamstring Muscle) ซึ่งหากมีการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อส่วนนี้ จะมีอาการปวดบริเวณใต้ก้นลงมาถึงต้นขาด้านหลัง และอาการปวดร้าวจะอยู่แค่ช่วงต้นขาด้านบนเท่านั้น ไม่เลยหัวเข่าลงไปในช่วงแรก แต่ถ้าทำการรักษาที่ไม่เหมาะสมหรือเกิดการบาดเจ็บซ้ำบ่อยๆ นอกจากจะมีอาการปวดที่ต้นขาด้านหลังแล้ว อาจมีอาการตึงที่ข้อพับเข่าด้านหลังหรือปวดร้าวไปที่น่องได้ ทำให้เหยียดเข่าได้ไม่ตรง หรือมีอาการปวดตึงต้นขาด้านหลังเวลาเดินยืนนานๆ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการบาดเจ็บขณะเล่นกีฬา เช่น การเล่นฟุตบอล บาสเกตบอล การวิ่งระยะทางไกล โดยขาดการยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนและหลังเล่นอย่างเหมาะสม
แนวทางการรักษาและกายภาพบำบัด กรณีปวดสะโพกร้าวลงขา
ถ้าหยุดพักแล้วยังมีอาการปวดอยู่ แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย หาสาเหตุของโรค เพื่อทำการรักษาต่อไปตามแต่ละโรค โดยการรักษามีดังนี้
1. การใช้ยาลดอาการปวด
มีการให้ยาหลายรูปแบบเพื่อลดอาการปวดที่เกิดจากหลากหลายสาเหตุ และปรับให้สอดคล้องกับโรคประจำต้วของคนไข้ ทำให้ใช้ยาได้อย่างปลอดภัย และลดปวดได้ตรงกับตัวโรคที่เป็น
2. การรักษาโดยการกายภาพบำบัด
- การออกกำลังกายเพื่อยืดเหยียดและเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยเน้นที่บริเวณกล้ามเนื้อหลังและกล้ามเนื้อหน้าท้อง (Core Muscle Exercise) หรือสามารถเพิ่มการบริหารกล้ามเนื้อช่วงสะโพกร่วมด้วยก็ได้ ซึ่งท่าทางบริหารที่เหมาะสมนั้น แนะนำว่าควรเข้ารับการปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญก่อนเพราะแต่ละตำแหน่งที่มีอาการปวดก็จะมีท่าทางที่เหมาะสมเฉพาะบุคคลแตกต่างกันออกไป
- การรักษาโดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์เพื่อช่วยในการฟื้นฟู เครื่องมือที่หลากหลายในการลดปวด คลายกล้ามเนื้อ เช่น การประคบแผ่นร้อน อัลตราซาวด์ การเลเซอร์ ช็อกเวฟ ฝังเข็ม ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและลดอาการปวด
นอกจากนี้ยังมีการออกกำลังกายในสระน้ำ (Aquatic Exercise) น้ำจะช่วยพยุงน้ำหนักตัว และมีแรงดันต้านที่ทำให้กล้ามเนื้อฟื้นฟูได้ดีมากขึ้น โดยที่กระดูกสันหลังและข้อต่อต่างๆ รับน้ำหนักน้อยลงขณะออกกำลังกาย
3. การรักษาโดยการผ่าตัด
ในกรณีของกลุ่มอาการปวดสะโพกร้าวลงขาที่เกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาท หรือโรคกระดูกสันหลังเสื่อมในผู้สูงอายุ หากผ่านรักษาด้วยการกินยาและกายภาพบำบัดแล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์จะมีวิธีการผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาอาการปวดได้
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจนวดรักษาอาการปวดสะโพกร้าวลงขา
สิ่งที่ผู้ป่วยควรนำมาพิจารณาก่อนตัดสินใจนวดรักษาอาการปวดสะโพกร้าวลงขา ชาลงขา มีดังนี้ 1. การนวดแก้อาการด้วยวิธีนี้ ถึงแม้ว่าจะสามารถทำให้ผู้ป่วยหายอย่างถาวรได้ก็จริง แต่อาจไม่ได้หายภายในครั้งเดียว จริงอยู่ว่าถ้าในกรณีที่ผู้ป่วยเพิ่งเริ่มมีอาการปวดมาไม่นานนั้น การนวดที่กระทำโดยผู้ชำนาญ จะสามารถทำให้อาการดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรก แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการเรื้อรังมาระยะหนึ่งแล้ว การนวดรักษาเพียงครั้งเดียวก็อาจไม่เพียงพอ ทั้งนี้อาการจะหายช้าหรือเร็วนั้นจะขึ้นอยู่กับ
- ความเชี่ยวชาญของผู้นวดแก้อาการ
ผู้รักษาที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษา เมื่อตรวจอาการแล้วจะรู้ทันทีว่าต้นเหตุของอาการอยู่ที่ใด และต้องแก้ที่ตำแหน่งใด ซึ่งจะแตกต่างผู้รักษาที่ไม่มีความชำนาญโดยสิ้นเชิง เพราะผู้ที่ไม่มีความรู้ ความชำนาญ จะไม่สามารถแยกได้ว่ากล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หรือข้อต่อที่มีความผิดปกตินั้น ผิดปกติเพราะอะไร และควรต้องแก้ไขอย่างไร การรักษาโดยผู้ที่ชำนาญการ จะให้ผลการรักษาที่รวดเร็ว แม่นยำ และตรงจุด จนผู้ป่วยรู้สึกได้เองถึงความแตกต่าง
- ระยะเวลาที่ผู้ป่วยมีอาการสะสมมา
ผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรัง หรือ มีอาการเป็นๆ หายๆ มานาน หรือเคยใช้งานกล้ามเนื้อหลังและสะโพกมานาน ย่อมต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานกว่าผู้ป่วยที่เพิ่งมีอาการ เนื่องจากในผู้ป่วยที่มีอาการมานาน พังผืดจะเกาะหนาและลุกลามไปในชั้นกล้ามเนื้อในหลายๆ จุด ดังนั้นจะต้องรักษาหลายครั้งกว่าจะสลายพังผืดออกจนหมด ในขณะที่ผู้ป่วยที่เพิ่งเริ่มมีอาการไม่นานนั้น จะมีพังผืดยึดเกาะเพียงเล็กน้อย และจะเกาะอยู่เพียงกล้ามเนื้อชั้นบนๆ ไม่ได้เกาะฝังลงลึก หรือเกาะลุกลามไปที่ต่างๆ เหมือนผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรัง ดังนั้น จึงใช้เวลารักษาน้อยกว่า ได้ผลที่ชัดเจนกว่า และหายไวกว่า
- สภาพกล้ามเนื้อของผู้ป่วย
ผู้ป่วยแต่ละท่านมีสภาพกล้ามเนื้อที่แตกต่างกัน ทั้งเรื่องของความสามารถในการคลายตัว หรือในเรื่องความหนืดแข็งของพังผืด ผู้ป่วยที่มีกล้ามเนื้อที่คลายตัวได้เร็ว หรือมีพังผืดนิ่มจะเห็นผลการรักษาที่ชัดเจนและไวกว่าผู้ป่วยที่กล้ามเนื้อที่คลายตัวช้า หรือมีพังผืดหนืดแข็ง 2. การนวดสลายแก้อาการสลายพังผืด มีความเจ็บ เนื่องจากการนวดสลายพังผืดจะเน้นไปที่การรักษาอาการของผู้ป่วยให้ทุเลา ไม่ได้เน้นเรื่องความผ่อนคลาย ดังนั้น ขณะทำการรักษา ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บ ซึ่งจะเจ็บมาก-น้อย ขึ้นอยู่กับวิธีการหรือเทคนิคของการนวดแก้อาการในแต่ละแห่ง อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่ต้องการรักษาด้วยวิธีการนวดสลายพังผืดนี้ จะต้องเป็นผู้ป่วยที่พอทนความเจ็บได้บ้าง หากเป็นผู้ที่ทนความเจ็บไม่ได้เลย อาจจะต้องเลือกการรักษาทางอื่นแทน 3. อาจเกิดการระบมหรือรอยฟกช้ำขึ้นหลังจากการนวด การนวดแก้อาการสลายพังผืดนั้น อาจจะทำให้เกิดความระบมหรือมีรอยฟกช้ำขึ้นหลังจากการรักษา โดยส่วนใหญ่แล้วอาการระบมและรอยฟกช้ำ จะเกินระยะเวลาประมาณ 3-10 วัน โดยจะระบมมาก-น้อย หรือ ฟกช้ำ มาก-น้อย แค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการนวดรักษาของสถานที่นวดแก้อาการแต่ละแห่ง 4. ค่าใช้จ่ายในการนวดแก้อาการจะสูงกว่าการนวดทั่วไป โดยปกติแล้ว ค่าใช้จ่ายในการนวดแก้อาการจะสูงกว่าค่าใช้จ่ายในการนวดทั่วไป เนื่องจากผู้ที่จะทำการนวดแก้อาการได้นั้น ไม่ใช่แค่ใครก็ได้ที่นวดแผนไทยเป็น แต่จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญด้านการสลายพังผืดในกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และ ข้อต่อ มากกว่าหมอนวดแผนไทยอย่างมาก ซึ่งผู้ที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญในด้านนี้จริงๆ มีจำนวนค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ดี อาการปวดสะโพกร้าวลงขา เป็นอาการที่สามารถลุกลามทรุดหนักจนถึงขั้นต้องผ่าตัด หรืออาจทำให้เป็นอัมพาตได้ในอนาคต ดังนั้นผู้ที่กำลังมีอาการนี้ ควรรีบทำการรักษาให้หายตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ควรปล่อยปละละเลยจนแก้ไขลำบาก ยอมเสียเวลารักษาให้หายตั้งแต่ตอนนี้ เพราะการรักษาจะทำได้ง่ายกว่า ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการปล่อยไว้จนเป็นหนักในอนาคต
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- ปวดเอวเวลานอน-สาเหตุการนอนไม่หลับ แก้ยังไงดี
- “ปวดหลังเรื้อรัง” 6 พฤติกรรมที่ทำให้คุณปวดหลังแบบไม่รู้ตัว
- “ฝังเข็ม” วิธีรักษาทางกายภาพบำบัดของโรคออฟฟิศซินโดรม