NEWTONEM
×
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
    • เรื่องราวคลินิก
    • ทำไมถึงควรให้เราดูแล
    • สิ่งที่เราแตกต่าง
    • ทีมของเรา
    • ร่วมเป็นทีมเดียวกัน
  • บริการคลินิก
    • บริการรักษาของคลินิก
    • คอร์สอบรมออนไลน์
  • อาการปวด
    • ตามส่วนของร่างกาย
    • ตามประเภทการปวด
    • ตามประเภทกีฬา
  • สาขา
    • สาขาพระราม 6
    • สาขาลาดพร้าว
    • สาขาทองหล่อ
    • สาขากาญจนาภิเษก
    • สาขารามคำแหง
    • สาขาราชพฤกษ์
  • บทความ
  • ผู้ป่วยใหม่
  • ติดต่อเรา
    • ติดต่อเรา
    • คำถามพบบ่อย
    • คนไข้ใหม่
    • เข้าสู่ระบบสมาชิก
  • English
  • 0 items

หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท ภาวะอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท ภาวะอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
อาการปวดทั่วไป

หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท เป็นโรคที่หลาย ๆ คนอาจคิดว่ามักเกิดกับผู้สูงวัยเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่แค่นั้น เพราะภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนวัยหนุ่มสาวเช่นกัน โดยเฉพาะในวัยทำงานที่มักจะมีอิริยาบถที่ผิดปกติ หรือการนั่งนาน ๆ ยืนนาน ๆ ในท่าเดิมจนเกินไป ก็สามารถทำให้เกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ภาวะนี้มีวิธีรักษา หากเรารู้จักและรู้สาเหตุการเกิดของมันอย่างแท้จริง ก็ยิ่งทำให้การรักษาง่ายและตรงจุดมากขึ้น ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง วันนี้ Newton Em Clinic รวบรวมข้อมูลมาฝาก

หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท คืออะไร เกิดจากอะไร รักษาอย่างไรได้บ้าง?

80% ของบุคคลทั่วไป เชื่อว่าต้องเคยมีอาการปวดหลัง จะมากหรือน้อยแตกต่างกันไปตามอายุแต่ก็จะต้องเคยปวดหลังกันมาบ้าง ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งการปวดหลังทั่วไป คือ อาจจะมีสาเหตุจากกล้ามเนื้ออักเสบ และเป็นไปได้ทั้งการปวดหลังที่มีสาเหตุมาจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท ซึ่งในกรณีหลังนี้มักเป็นสาเหตุหลักที่นำผู้ป่วยมาพบหมอ

โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อันตรายไหม อย่างไร?

โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท สาเหตุหลักมาจากความเสื่อมของหมอนรองกระดูก จากการใช้งานที่ส่งผลต่อกระดูกสันหลังโดยตรงเป็นระยะเวลานาน ซ้ำๆ กัน เช่น การก้มหลังยกของหนัก การทำกิจกรรมที่ต้องก้มๆ เงยๆ หลังเป็นประจำ อุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนต่อกระดูกสันหลังโดยตรงจากการชอบก้มหลังพร้อมบิดตัว หรือแม้แต่ความเสื่อมตามอายุ จนทำให้เกิดจากการฉีกขาดของเส้นใยของหมอนรองกระดูกสันหลัง และจะค่อยๆ ดันตัวและปลิ้นออกมาจนไปกดเบียดเส้นประสาทที่อยู่ด้านหลัง

ซึ่งในอดีตจะพบโรคนี้ในวัยสูงอายุบ่อย แต่ในปัจจุบันกลับพบมากขึ้นในวัยทำงาน โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่นั่งทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ไม่ยอมลุกขยับไปไหน นั่งอยู่ท่าเดียวตลอดทั้งวัน และพฤติกรรมการนั่งทำงานแบบนี้ จะทำให้โครงสร้างกระดูกสันหลังเกิดการทรุดตัวจนไปเบียดทับเส้นประสาท

เมื่อกระดูกสันหลังเกิดการทรุดตัว หรือหมอนรองกระดูกปลิ้นออกมาจนไปเบียดทับเส้นประสาท ก็จะเกิดอาการปวดหลังเรื้อรัง มีความรู้สึกชาบ่อยๆ บริเวณขา น่อง และเท้า คล้ายเหน็บชา หรือตะคริวถี่ๆ บางครั้งเป็นจนไม่สามารถเดินต่อได้ หนักเข้าอาจรุนแรง อันตรายถึงขั้นกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง กระดกข้อเท้าและนิ้วเท้าไม่ขึ้น บางคนก็ควบคุมการขับถ่าย อุจจาระ ปัสสาวะได้ลำบากขึ้น

สาเหตุของหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท

อย่างที่อธิบายไปแล้วว่าหมอนรองกระดูกทำหน้าที่ในประคองและกระจายแรงในการรับน้ำหนักของกระดูกสันหลังโดยตรง เพราะฉะนั้นปัจจัยเสี่ยงหลักๆ จะเน้นไปในเรื่องการรับน้ำหนักและความเคลื่อนไหวที่รุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้หมอนรองกระดูกแตกปลิ้นออกมา ดังนี้

น้ำหนักตัวมาก

เพราะยิ่งน้ำหนักตัวมาก กระดูกสันหลังก็ต้องรับน้ำหนักมากตามไปด้วย

การใช้งานที่ไม่เหมาะสม

เช่น ก้มหลัง ยกของหนัก เพราะท่าทางเหล่านี้เป็นการเพิ่มแรงดันที่หมอนรองกระดูกค่อนข้างเยอะ ซึ่งอาจจะเกินความทนทานที่หมอนรองกระดูกรับได้ จนกระทั่งเกิดการแตกปลิ้นออกมา

การนั่งในท่าที่ไม่เหมาะสมต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ

พบมากในกลุ่มคนวัยทำงาน และมักจะมีโอกาสเกิดหมอนรองกระดูกปลิ้นกดทับเส้นประสาทในบริเวณช่วงเอวมากที่สุด เพราะเวลาที่นั่งนานๆ กระดูกสันหลังส่วนนั้นจะรับน้ำหนักแบบเต็ม ๆ

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อาการเป็นอย่างไร

ถ้าปวดหลังจากสาเหตุหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทแล้วล่ะก็จะเป็นอะไรที่ทรมานมากทีเดียวเพราะจะไม่ได้มีอาการปวดแค่หลังเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหามากก็คือ

  • อาการปวดจะร้าวลงไปถึงขา อาจจะ 1 ข้างหรือทั้ง 2 ข้างก็ได้
  • จะรู้สึกกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงจนทำให้ไม่สามารถเดินได้อย่างปกติ
  • มีอาการชาของขา 1 หรือ 2 ข้างก็ได้
  • มีอาการเดินลำบาก หรือเดินได้ไม่ไกล

และแน่นอนคงรบกวนการใช้ชีวิตประจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นเป็นอย่างมากที่ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษา

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท รักษาอย่างไรได้บ้าง?

สำหรับภาวะนี้สามารถเข้ารับการรักษาได้ทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน ประกอบด้วย…

1. รักษาด้วยการใช้ยา

การรักษาด้วยการใช้ยาจะเป็นการจ่ายยาตามโรคของผู้ป่วย เช่น ยาแก้ปวด, ยาลดการอักเสบ, ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาลดความปวดของระบบประสาท เป็นต้น โดยนอกจากยารับประทานแล้วก็ยังมีทางเลือกหนึ่งคือการฉีดยาระงับปวดลดอาการอักเสบที่เส้นประสาท วิธีนี้แพทย์จะให้ผู้ป่วยทำ MRI เพื่อหาตำแหน่งที่หมอนรองกระดูกปลิ้นกดทับเส้นประสาทอยู่ จากนั้นจะฉีดยาเข้าไปในบริเวณใกล้กับเส้นประสาทที่โดนหมอนรองกระดูกกดทับ โดยใช้เครื่อง X-Ray เป็นตัวบอกตำแหน่ง เพื่อลดอาการปวดและอักเสบของเส้นประสาท

2.รักษาด้วยการผ่าตัด

วิธีนี้จะเกิดขึ้นในกรณีของผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาในสองรูปแบบข้างต้นมาแล้วอาการปวดยังไม่ดีขึ้น ซึ่งรูปแบบการผ่าตัดสำหรับโรคหมอนรองกระดูกที่มีกดทับเส้นประสาทนั้นก็จะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับภาวะอาการของผู้ป่วย ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการวินิจฉัย

3.รักษาโดยไม่ใช้ยา

ซึ่งก็จะถูกแบ่งออกเป็นวิธีย่อย ๆ ได้อีก 2 วิธีด้วยกัน คือ…

  • กายภาพบำบัด

การกายภาพบำบัด เช่น การนวด อัลตราซาวด์ การใช้เลเซอร์ รวมไปถึงการทำช็อกเวฟเพื่อคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวด นอกจากนี้ยังมีท่ากายบริหารยืดเหยียดและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ

  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ป่วย

แพทย์จะวิเคราะห์จากการซักประวัติว่าผู้ป่วยมีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องอย่างไรบ้าง และควรแก้ไขอย่างไร

4 ท่าบรรเทาอาการปวดจากภาวะ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

สำหรับท่ากายภาพบำบัดที่ช่วยบรรเทาอาการปวดได้นั้น ทำได้ไม่ยาก ผู้มีภาวะนี้สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้…

ท่าที่ 1

นอนคว่ำ หันหน้าไปด้านหนึ่ง ทำเป็นระยะเวลาประมาณ 5 นาที และหากมีอาการปวดให้หยุดทำทันที แต่หากไม่มีอาการสามารถทำท่าต่อไปได้

ท่าที่ 2

ตั้งศอก ดันตัวขึ้นลง 5 – 10 ครั้ง ควรทำอย่างช้าๆ และห้ามเกร็งหลัง และหากมีอาการปวดให้หยุดทำทันที แต่หากไม่มีอาการสามารถทำท่าต่อไปได้

ท่าที่ 3

ใช้แขน เหยียดข้อศอก และดันตัวขึ้นลง 5 – 10 ครั้ง ควรทำอย่างช้าๆ ไม่ควรเกร็งหลัง และหากมีอาการปวดให้หยุดทำทันที แต่หากไม่มีอาการสามารถทำท่าต่อไปได้

ท่าที่ 4

ยืน และนำมือทั้ง 2 ข้าง ค่อยๆ ดันบริเวณหลังส่วนล่าง 5 – 10 ครั้ง และควรทำอย่างช้าๆ และหากมีอาการปวดให้หยุดทำทันที แต่หากไม่มีอาการสามารถทำท่าต่อไปได้

ท้ายที่สุด กล่าวโดยสรุปคือ โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทนั้น อาจพูดได้ว่าปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่เกิดมาจากพฤติกรรมการใช้งานแทบทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นหนทางป้องกันที่ดีที่สุดคือการเริ่มต้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตั้งแต่วันนี้ เพราะเพียงการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ก็สามารถช่วยแบ่งเบาภาระกระดูกสันหลังของเราได้แล้ว

——————————–

ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วิดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวิดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง

บทความที่น่าสนใจ

  • “ปวดหลังเรื้อรัง” พฤติกรรมที่ทำให้คุณปวดหลังแบบไม่รู้ตัว
  •  “โรคกระดูกสันหลัง” 4 โรคที่ควรระวังปล่อยไว้อาจส่งผลเสีย
  • เครื่องมือกายภาพ 5 แบบมีอะไรบ้างแต่ละแบบรักษาอย่างไร

ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม

Newton Em Clinic เป็นคลินิกกายภาพที่มุ่งเน้นการบริการทางด้านกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ออฟฟิศซินโดรม และอาการปวดตามส่วนต่างๆ เช่นหลัง บ่า เข่า และข้อ เป็นต้น ด้วยบริการต่างๆ ดังนี้ กายภาพบำบัดทั่วไป กายภาพบำบัดหลังผ่าตัด การรักษาอาการบาดเจ็บทางกีฬา นวดการกีฬา โปรแกรมยืดกล้ามเนื้อ โปรแกรมเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาก่อนแข่ง โปรแกรมฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังแข่ง การตรวจโครงสร้างทางร่างกาย โปรแกรมออกกำลังกายในน้ำ โปรแกรมออกกำลังกายรักษาอาการปวดพิลาทิส รับปรึกษาแผนการพัฒนาความคิดและพฤติกรรมสำหรับเด็ก และกายภาพบำบัดในท่อน้ำนมอุดตันสำหรับหญิงหลังคลอด ซึ่งเรามีความรู้ในการดูแลและประสบการณ์ด้านการรักษา เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายตามมาตรฐานด้วยเทคนิคเฉพาะทาง พร้อมทั้งสามารถให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพจากทีมนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์โดยตรง เหมาะสำหรับกลุ่มนักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกาย และผู้ที่มีภาวะจำเป็นที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดเช่น กายภาพบำบัดหลังการผ่าตัด คุณแม่หลังคลอดและผู้สูงอายุ 

ปัจจุบันเรามีคลินิกที่พร้อมให้บริการจำนวน 6 สาขา โดยแต่ละสาขาจะมีการให้บริการ การรักษาขั้นพื้นฐานที่เหมือนกัน และยังมีการให้บริการที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางของแต่ละสาขา โดยนักกายภาพที่มีประสบการณ์และผ่านการอบรมเฉพาะด้านเพื่อผลิตผู้รักษาให้ตรงตามอาการของผู้ป่วยทุกคน คลินิก Newton Em พร้อมให้บริการจำนวน 6 สาขา

  • สาขาลาดพร้าว เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขาทองหล่อ เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขากาญจนาภิเษก เบอร์โทร 099-553-9445, 083-559-5954
  • สาขาพระราม 6 เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขารามคำแหง เบอร์โทร 099-553-9445, 02-115-5353
  • สาขาราชพฤกษ์ เบอร์โทร 096-264-4250

เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 10:00 น. – 19:00 น.

ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม

Tel: 099-553-9445

ปรึกษา หรือ ติดตามความรู้สุขภาพอื่นๆได้ตามช่องทางด้านล่าง

   facebook_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic   Youtube_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic   instagram_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic

Newton-EM-_โลโก้ขาว_compressed

About US

At Newton Em Clinic, our experienced therapists are able to treat a variety of different injuries and conditions. If you have any specific questions, Please do not hesitate to contact our therapists.

ข่าวสารล่าสุด

  • ปวดข้อศอก จี๊ดๆ หลังเล่นแบดมินตัน เทนนิส หรือกอล์ฟ รีบดูแลก่อนเรื้อรัง! มิ.ย. 25

    ปวดข้อศอก ...

  • ปวดข้อศอก ยืดแขนไม่ได้ จนตีกอล์ฟไม่ถนัด รีบแก้ก่อนอาการหนัก มิ.ย. 25

    “ปวด...

  • ปวดข้อศอกร้าวลงแขน ตั้งวงสวิงไม่ถนัด นักกีฬากอล์ฟแก้ยังไงดี? มิ.ย. 25

    ปวดข้อศอกร...

ความรู้สุขภาพล่าสุด

  • ปวดข้อศอก จี๊ดๆ หลังเล่นแบดมินตัน เทนนิส หรือกอล์ฟ รีบดูแลก่อนเรื้อรัง!
  • ปวดข้อศอก ยืดแขนไม่ได้ จนตีกอล์ฟไม่ถนัด รีบแก้ก่อนอาการหนัก
  • ปวดข้อศอกร้าวลงแขน ตั้งวงสวิงไม่ถนัด นักกีฬากอล์ฟแก้ยังไงดี?
  • ตีกอล์ฟแล้วปวดมือ เสี่ยง Golf Wrist Injury หรือไม่ โปรกอล์ฟต้องรู้
  • วิ่งแล้วเจ็บหน้าแข้ง ระหว่างการแข่ง ยังวิ่งต่อได้ไหมหรือควรหยุดทันที?

⭐⭐⭐⭐⭐

Rating: 5 out of 5.
Copyright ©2020 Newtonemclinic all rights reserved
นโยบาย ความเป็นส่วนตัว ข้อตกลงการใช้เว็บไซต์