กระดูกสันหลังคด ข้อห้าม ที่ผู้ป่วยไม่ควรทำ มีอะไรบ้าง?
กระดูกสันหลังคด ข้อห้าม ที่ไม่ควรทำมีอะไรบ้าง? แน่นอนว่าภาวะผิดปกติเช่นนี้ต้องมีข้อห้ามที่เหล่าบรรดาผู้ป่วยไม่ควรทำเช่นเดียวกับภาวะโรคอื่น ๆ เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ก็อาจทำให้อาการกระดูกสันหลังคดหนักขึ้นไปอีก ซึ่งต้องบอกก่อนว่ากระดูกสันหลังเป็นภาวะที่พบได้บ่อยและถูกเพิกเฉย มิได้ป้องกัน หรือรักษาซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยกว่าจะมาพบแพทย์ ก็มีอาการคดมากเดินตัวเอียง หรือบางรายมีอาการปวดหลัง ภาวะโรคกระดูกสันหลังคดส่วนใหญ่ “80 % พบว่าไม่มีสาเหตุการเกิดที่ชัดเจน จึงเรียกว่า กระดูกสันหลังคดชนิดไม่ทราบสาเหตุซึ่งก็ถือว่าจะมีแนวทางในการที่รักษาค่อนข้างยากเนื่องจากไม่สามารถหาต้นตอได้ ดังนั้น การระมัดระวังตัวเพื่อคงอาการไว้ในช่วงรักษาจึงสำคัญ
กระดูกสันหลังคด ข้อห้าม ที่ผู้ป่วยไม่ควรทำและควรหลีกเลี่ยง
ก่อนอื่น ทุก ๆ คนต้องทราบก่อนว่ากระดูกสันหลังนั้นมีหน้าที่รับน้ำหนักและช่วยพยุงร่างกายให้สามารถตั้งตรงได้ ในคนปกติหากมองจากด้านหลังจะเห็นกระดูกสันหลังเป็นแนวเส้นตรง แต่ในคนที่เป็นโรคกระดูกสันหลังคดเมื่อมองจากด้านหลังจะเห็นแนวกระดูกโค้งไปทางซ้ายหรือขวา ไม่เป็นเส้นตรงเหมือนคนปกติ โรคกระดูกสันหลังคดเกิดได้ในทุกอายุ พบได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงวัยผู้ใหญ่ แต่ส่วนมากมักเกิดในช่วงที่มีการเจริญเติบโตของกระดูกอย่างรวดเร็ว คืออายุประมาณ 10-15 ปี
สาเหตุของการเกิด “กระดูกสันหลังคด“
สาเหตุเกิดได้ตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดจากการที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การนั่งตัวงอ การนั่งตัวเอียง การยืนลงน้ำหนักทั้งสองข้างไม่เท่ากัน การยืนพักขาบ่อย ๆ หรือการถ่ายน้ำหนักไปข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไป
กิจกรรมที่ผู้ป่วยกระดูกสันหลังคดไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด
กิจกรรมที่ผู้ป่วยภาวะกระดูกสันหลังคดไม่ควรทำ มีหลายข้อด้วยกัน เช่น…
- การยกของหนัก
- การที่จะต้องอยู่ในท่าทางเดิมซ้ำๆ นานๆ เช่น นั่งนาน ยืนนาน
- กิจกรรมที่จะต้องบิดกล้ามเนื้อกระทันหัน เพราะโอกาสที่จะเกิดการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อได้ง่ายกว่าปกติ
- ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีการกระแทกต่อกระดูกสันหลัง เช่น กีฬาผาดโผนต่าง ๆ
- เลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากๆ เช่น การยกของหนักมาก ๆ การแบกของใส่หลัง การสะพายกระเป๋าที่หนักมากๆจนตัวเอียง
- เลี่ยงกิจกรรมที่มีการบิดของกระดูกสันหลังมาก ๆ เช่น ท่าโยคะ หรือท่าออกกำลังกายบางท่า
- หลีกเลี่ยงพฤติกกรรม ท่าทางที่ไม่ถูกต้องเป็นระยะเวลานานๆ เช่น นั่งหลังงอๆ นั่งตัวเอียง การยืนเข่าแอ่น ตัวโย้ไปด้านหน้า ทำให้หลังแอ่นมากกว่าปกติ
กายภาพบำบัดสำหรับฟื้นฟูกระดูกสันหลังคด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้เป็นกระดูกสันหลังคดควรทำ “การบริหารกล้ามเนื้อ” ให้แข็งแรงมากขึ้น เพื่อทำให้กล้ามเนื้อสามารถรองรับกับภาระที่เกิดขึ้นได้โดยไม่เกิดความล้า และถ้าจำเป็นที่จะต้องนั่งนาน ยืนนาน ให้พยายามนั่ง หรือยืนรักษาแนวของกระดูกสันหลังให้ตรงอยู่ตลอดเวลา
เมื่อพบภาวะกระดูกสันหลังคด การรักษาทางกายภาพบำบัดตั้งแต่ระยะแรกนั้นเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยชะลอการเพิ่มมุมการคดของกระดูกสันหลังได้ โดยนักกายภาพบำบัดจะทำการตรวจประเมิน วิเคราะห์ภาวะกระดูกสันหลังคด และออกแบบแนวทางการทำกายภาพบำบัดที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
เครื่องมือกายภาพบำบัดที่สามารถช่วยปรับแนวกระดูกสันหลังที่คดอยู่ให้ดีขึ้น
นักกายภาพบำบัดจะตรวจภาวะกระดูกสันหลังเพื่อประเมินภาวะคดโค้งทั้งแนวกระดูกเพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพราะความคดโค้งของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น การเลือกใช้เครื่องมือรักษาสำหรับผู้ป่วยแต่ละคนจึงแตกต่างกันออกไป เครื่องมือดังกล่าว ยกตัวอย่างเช่น
เครื่องดึงคอและกระดูกสันหลังไฟฟ้า (Electrical Traction Therapy)
ช่วยยืดกล้ามเนื้อและลดการกดทับเส้นประสาทปรับแนวกระดูกสันหลังส่วนคอและหลังให้อยู่ในแนวปกติ เพิ่มช่องว่างระหว่างแนวกระดูกสันหลัง
เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า (Electrical Stimulator)
เป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อหลังทั้งสองด้านให้ลดการหดสั้นและเกร็งตัวของกล้ามเนื้อหลังและเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อในมัดที่อ่อนแรง ปรับสมดุลของกล้ามเนื้อ และลดอาการปวดสะบัก ปวดหลังและสะโพกได้
ปากกาไฟฟ้า (Point stimulator)
ปากกาไฟฟ้าช่วยคลายความตึงตัวของกล้ามเนื้อมัดเล็กชั้นลึกของแนวกระดูกสันหลังตั้งแต่ส่วนคอถึงส่วนหลัง ทั้งนี้อาจมีการสอนการจัดท่าในการใช้ชีวิตประจำวัน การนั่ง การนอน การทรงตัว การฝึกการหายใจให้ถูกต้องเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด เนื่องจากการออกกำลังกายด้วยวิธีดังกล่าวคือวิธีที่เป็นแบบเฉพาะที่เหมาะสมเพื่อช่วยรักษาให้กระดูกสันหลังกลับเข้าสู่แนวเดิม หรือให้ใกล้เคียงแนวปกติให้มากที่สุด การรักษาจะจำเพาะแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับแต่ละคน
การใส่เสื้อเกราะดัดหลัง (Brace)
แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยเด็กที่ยังมีการเจริญเติบโตของกระดูก หรือมีอาการกระดูกสันหลังคดในระดับปานกลางสวมเสื้อเกราะดัดหลัง (Brace) ที่จะช่วยป้องกันกระดูกไม่ให้เกิดความคดงอมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภาวะโรคกระดูกสันหลังคด ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นแบบไม่ทราบสาเหตุ ต้องอาศัยการสังเกต ตรวจคัดกรอง และหากตรวจยืนยันแล้วว่า มีกระดูกสันหลังคดควรรับการรักษาและติดตามอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากกระดูกสันหลังอาจคดมากขึ้น และเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีและในเวลาที่เหมาะสม ก็สามารถกลับมาใกล้เคียงภาวะปกติได้
ท้ายที่สุดจะเห็นได้ว่ากระดูกสันหลังคดแม้จะเป็นปัญหาที่ไม่เล็ก แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลมากอีกต่อไปเพราะในปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์ก้าวหน้าขึ้น จึงช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อน หากเราเข้าใจว่าโรคนี้เป็นอย่างไรและรักษาได้อย่างไร ก็จะวางใจได้มากยิ่งขึ้น
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วิดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวิดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- “ปวดหลังเรื้อรัง” พฤติกรรมที่ทำให้คุณปวดหลังแบบไม่รู้ตัว
- “โรคกระดูกสันหลัง” 4 โรคที่ควรระวังปล่อยไว้อาจส่งผลเสีย
- เครื่องมือกายภาพ 5 แบบมีอะไรบ้างแต่ละแบบรักษาอย่างไร