ปวดข้อศอก ยืดแขนไม่ได้ จนตีกอล์ฟไม่ถนัด รีบแก้ก่อนอาการหนัก
“ปวดข้อศอก ยืดแขนไม่ได้” อาการเหล่านี้อาจดูเหมือนไม่รุนแรงในช่วงแรก แต่สำหรับนักกอล์ฟหรือผู้ที่ต้องใช้แขนเป็นประจำ อาการปวดบริเวณข้อศอกสามารถรบกวนการเล่นกอล์ฟจนสูญเสียความแม่นยำและประสิทธิภาพได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกเจ็บขณะเหวี่ยงไม้ จับกริ๊ป หรือแม้แต่ตอนยืดแขนตรง นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะ “ข้อศอกอักเสบจากการใช้งานซ้ำ” หรือที่เรียกว่า Golf Elbow ซึ่งหากปล่อยไว้นาน อาจลุกลามจนกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน และต้องใช้ระยะเวลาฟื้นตัวนานกว่าที่คิด ในบทความนี้ Newton Em Clinic จะพาผู้อ่านและนักกีฬาทุกท่านไปทำความเข้าใจถึงอาการ สาเหตุ วิธีดูแลเบื้องต้น และแนวทางการรักษาอย่างตรงจุด เพื่อให้ทุกคนกลับไปตีกอล์ฟได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลกับอาการปวดซ้ำอีกต่อไป
ปวดข้อศอก ยืดแขนไม่ได้ เกิดจากอะไร ควรดูแลตนเองยังไงไม่ให้เป็นอาการเรื้อรังจนส่งผลต่อการเล่นในระยะยาว
กีฬากอล์ฟอาจดูเป็นกีฬาที่ไม่ต้องใช้แรงมาก แต่ในความเป็นจริง ทุกครั้งที่เหวี่ยงไม้ ร่างกายจะต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อหลายส่วน โดยเฉพาะข้อศอกและแขน หากมีอาการปวดข้อศอกหรือยืดแขนไม่ได้ อาจส่งผลต่อฟอร์มการเล่นอย่างชัดเจน และหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะบาดเจ็บเรื้อรังได้นั่นเอง
อาการที่พบบ่อยในผู้เล่นกอล์ฟ มีอะไรบ้าง?
ผู้ที่เล่นกอล์ฟเป็นประจำมักเผชิญกับอาการบาดเจ็บจากการใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำ ๆ โดยเฉพาะบริเวณแขนและข้อศอก ซึ่งเป็นจุดที่ต้องรับแรงกระแทกและแรงเหวี่ยงทุกครั้งที่สวิงไม้กอล์ฟ อาการที่พบบ่อยมักค่อย ๆ แสดงออกทีละน้อยในระยะแรก และอาจรุนแรงขึ้นหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่…
1.ปวดข้อศอกบริเวณด้านนอกหรือด้านในของแขน
อาการปวดในตำแหน่งนี้มักเกิดจากการอักเสบของเส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อที่ยึดเกาะกับกระดูกข้อศอก หากเป็นด้านนอก เรียกว่า Tennis Elbow และหากเป็นด้านใน เรียกว่า Golf Elbow ซึ่งมักสัมพันธ์กับท่าทางการเหวี่ยงไม้และแรงกระแทกซ้ำ ๆ ในการเล่น
2.ยืดแขนตรงไม่ได้ หรือรู้สึกตึงบริเวณข้อศอกเมื่อเหยียดแขน
เมื่อกล้ามเนื้อรอบข้อศอกอักเสบหรือหดเกร็ง อาจทำให้การเหยียดแขนเต็มช่วงทำได้ยาก รู้สึกเหมือนมีแรงต้านหรือความตึงอยู่บริเวณข้อศอก หรือบางรายอาจมีเสียงลั่นในข้อเวลาเคลื่อนไหว
3.เจ็บมากขึ้นเมื่อจับไม้กอล์ฟ เหวี่ยง หรือบิดแขน
อาการเจ็บมักรุนแรงขึ้นเมื่อมีการใช้งานจริง เช่น ขณะจับกริ๊ปไม้กอล์ฟแน่น ๆ หรือขณะเหวี่ยงไม้ การเคลื่อนไหวที่ต้องอาศัยแรงจากกล้ามเนื้อแขนและข้อมือจะยิ่งกระตุ้นอาการปวด โดยเฉพาะเมื่อมีการงอและเหยียดซ้ำ ๆ ในระยะเวลานาน
4.อาการปวดลามไปถึงต้นแขนหรือข้อมือ
ในบางกรณี ความเจ็บปวดอาจไม่จำกัดอยู่เพียงข้อศอก แต่อาจลามไปยังกล้ามเนื้อต้นแขน หรือแม้แต่ข้อมือ โดยเฉพาะหากมีการใช้งานแขนอย่างต่อเนื่องโดยไม่พัก อาการปวดแบบร้าวหรือลามเช่นนี้มักบ่งบอกว่าการอักเสบเริ่มกระทบเส้นเอ็นหรือเส้นประสาทร่วมด้วย
5.รู้สึกอ่อนแรงขณะใช้งานแขนข้างที่ปวด
แม้ไม่ได้รู้สึกเจ็บตลอดเวลา แต่เมื่อใช้งานแขนในการเหวี่ยงไม้หรือจับของ จะรู้สึกว่าแรงบีบลดลง หรือถือสิ่งของได้ไม่นานเหมือนเดิม ความอ่อนแรงนี้มักเกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของข้อมือและนิ้ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อฟังก์ชันการทำงานของแขนโดยรวม
โดยรวมแล้ว อาการบาดเจ็บที่ข้อศอกในนักกอล์ฟมักเริ่มต้นจากอาการเล็กน้อยและค่อย ๆ พัฒนา หากไม่ใส่ใจหรือไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพในการเล่นและกิจวัตรประจำวันได้ในระยะยาว ดังนั้น หากเริ่มมีอาการเจ็บหรือตึงบริเวณข้อศอก ควรหยุดพักและหาวิธีฟื้นฟูกล้ามเนื้ออย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นอาการเรื้อรังที่รักษาได้ยากในอนาคต
สาเหตุของอาการปวดข้อศอกในนักกอล์ฟ
อาการปวดข้อศอกในนักกอล์ฟมักเกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำ ๆ ในลักษณะเดิม เช่น การเหวี่ยงไม้กอล์ฟซ้ำหลายร้อยครั้งต่อวัน หรือการจับกริ๊ปไม้แน่นเกินไป อาจทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “Golf Elbow” หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า “ข้อศอกอักเสบด้านใน” ซึ่งคล้ายกับ Tennis Elbow ที่เกิดบริเวณด้านนอกของข้อศอก
สาเหตุหลัก ได้แก่….
- ใช้กล้ามเนื้อแขนมากเกินไปโดยไม่พัก
- ท่าทางการเหวี่ยงไม้ไม่ถูกต้อง
- กล้ามเนื้อรอบข้อศอกไม่แข็งแรงพอ
- ขาดการยืดเหยียดหรือวอร์มอัพก่อนเล่น
โดยสรุป อาการปวดข้อศอกในนักกอล์ฟมักเกิดจากพฤติกรรมการใช้งานซ้ำ ๆ และแรงกดต่อข้อศอกที่มากเกินไป การขาดการเตรียมร่างกายก่อนเล่นหรือเทคนิคการเหวี่ยงไม้ที่ไม่ถูกต้องล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการอักเสบในระยะยาว การใส่ใจเรื่องท่าทางและฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนนี้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดโอกาสการเกิดอาการปวดและช่วยให้เล่นกอล์ฟได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สะดุดจากอาการบาดเจ็บ
วิธีดูแลและบรรเทาอาการเบื้องต้น
หากเริ่มมีอาการปวดข้อศอก การดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้ลุกลามหรือกลายเป็นอาการเรื้อรังได้ โดยสามารถทำตามวิธีเบื้องต้นต่าง ๆ เหล่านี้…
- หยุดพักจากการใช้งานแขนที่ปวดชั่วคราว เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ฟื้นตัว
- ประคบเย็น บริเวณที่มีอาการปวด เพื่อลดการอักเสบ
- ใช้ผ้ายืดพยุงข้อศอก หรืออุปกรณ์ support เฉพาะทางเพื่อประคองการเคลื่อนไหว
- ยืดกล้ามเนื้อเบา ๆ ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด
อย่างไรก็ตาม หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์ ควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม ทั้งนี้ การดูแลตัวเองตั้งแต่เริ่มมีอาการเล็กน้อยเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันไม่ให้อาการลุกลามจนกลายเป็นเรื้อรัง การหยุดพัก การประคบเย็น และการใช้อุปกรณ์พยุงข้อศอกอย่างเหมาะสมล้วนเป็นวิธีเบื้องต้นที่ได้ผล หากควบคู่ไปกับการยืดเหยียดที่ถูกวิธีและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด จะช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น และลดความเสี่ยงที่จะต้องรักษาด้วยวิธีที่ซับซ้อนในอนาคต
เมื่ออาการปวดข้อศอกเริ่มกระทบกับการเล่นกอล์ฟในชีวิตประจำวัน การรักษาอย่างตรงจุดและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งการใช้เทคโนโลยีการแพทย์และการฟื้นฟูร่างกายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับพฤติกรรมการเล่นอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถกลับมาเล่นกอล์ฟได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกังวลว่าอาการจะกลับมาเป็นซ้ำอีก
การรักษาอย่างตรงจุดเพื่อกลับมาเล่นกอล์ฟได้อย่างมั่นใจ
หากอาการปวดข้อศอกมีความรุนแรงหรือมีแนวโน้มเรื้อรัง ไม่ตอบสนองต่อการพักหรือดูแลเบื้องต้น แนะนำให้เข้ารับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ หรือเวชศาสตร์การกีฬา เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะกับอาการเฉพาะบุคคล โดยแนวทางการรักษาที่มักใช้ ได้แก่…
การทำกายภาพบำบัดเฉพาะจุด (Targeted Physiotherapy)
เน้นการลดอาการอักเสบ ฟื้นฟูความยืดหยุ่น และเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับข้อศอก เช่น กล้ามเนื้อปลายแขน ไหล่ และสะบัก โปรแกรมกายภาพอาจรวมถึงการใช้คลื่นไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อ การยืดเหยียดเฉพาะจุด และการออกกำลังกายเพื่อปรับสมดุลกล้ามเนื้อ
การฉีดยาลดการอักเสบ (Anti-inflammatory Injections)
ในกรณีที่มีอาการอักเสบมากและมีผลต่อการเคลื่อนไหว แพทย์อาจพิจารณาฉีดยาเฉพาะที่ เช่น คอร์ติโคสเตียรอยด์ เพื่อลดอาการปวดและบวม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาเคลื่อนไหวข้อศอกได้คล่องตัวขึ้นในระยะสั้น แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
การทำ Shockwave Therapy หรือเลเซอร์บำบัด
เป็นการรักษาทางเลือกที่ไม่ใช้ยา โดยใช้คลื่นพลังงานหรือแสงเลเซอร์กระตุ้นให้เนื้อเยื่อซ่อมแซมตัวเอง ช่วยลดการอักเสบเรื้อรังและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในจุดที่มีอาการ การรักษาเหล่านี้มักใช้ร่วมกับการทำกายภาพเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้น
การปรับท่าทางและเทคนิคการเล่นกอล์ฟ
การวิเคราะห์ท่วงท่าการสวิงไม้กอล์ฟโดยผู้เชี่ยวชาญหรือโปรกอล์ฟมืออาชีพ เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญที่ช่วยลดแรงกระแทกบริเวณข้อศอก การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ เช่น การจับกริ๊ปให้พอดี ไม่แน่นเกินไป หรือปรับการเหวี่ยงให้เหมาะสมกับสรีระ สามารถลดโอกาสการบาดเจ็บซ้ำได้อย่างมีนัยสำคัญ
ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อศอกและแขน
การเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงไม่เพียงช่วยพยุงข้อศอกขณะเล่น แต่ยังช่วยลดแรงกดที่เนื้อเยื่อจุดเดิมเมื่อใช้งานซ้ำ ๆ โปรแกรมการออกกำลังกายควรได้รับคำแนะนำจากนักกายภาพบำบัด เพื่อให้ฝึกอย่างปลอดภัยและเหมาะกับอาการ
การรักษาเหล่านี้สามารถออกแบบให้เหมาะกับอาการเฉพาะบุคคล โดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูข้อศอกให้แข็งแรง กลับมาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และลดโอกาสเกิดการบาดเจ็บซ้ำในอนาคต ทั้งนี้ การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และนักกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาเล่นกอล์ฟได้อย่างมั่นใจได้ในระยะยาว
สรุป
หากคุณเป็นนักกอล์ฟที่เริ่มรู้สึกว่าการยืดแขนหรือเหวี่ยงไม้ไม่ลื่นไหลเหมือนเดิม มีอาการปวดข้อศอก ยืดแขนไม่ได้ หรือรู้สึกตึงจนรบกวนการเล่น อย่ารอให้อาการลุกลามจนกระทบฟอร์มการเล่น รีบดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้คุณกลับมาตีกอล์ฟได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง และป้องกันไม่ให้อาการกลายเป็นปัญหาระยะยาวในอนาคต
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้มีประสบการณ์ทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- ปวดเอวเวลานอน-สาเหตุการนอนไม่หลับ แก้ยังไงดี
- “ปวดหลังเรื้อรัง” 6 พฤติกรรมที่ทำให้คุณปวดหลังแบบไม่รู้ตัว
- “ฝังเข็ม” วิธีรักษาทางกายภาพบำบัดของโรคออฟฟิศซินโดรม