NEWTONEM
×
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
    • เรื่องราวคลินิก
    • ทำไมถึงควรให้เราดูแล
    • สิ่งที่เราแตกต่าง
    • ทีมของเรา
    • ร่วมเป็นทีมเดียวกัน
  • บริการคลินิก
    • บริการรักษาของคลินิก
    • คอร์สอบรมออนไลน์
  • อาการปวด
    • ตามส่วนของร่างกาย
    • ตามประเภทการปวด
    • ตามประเภทกีฬา
  • สาขา
    • สาขาพระราม 6
    • สาขาลาดพร้าว
    • สาขาทองหล่อ
    • สาขากาญจนาภิเษก
    • สาขารามคำแหง
    • สาขาราชพฤกษ์
  • บทความ
  • ผู้ป่วยใหม่
  • ติดต่อเรา
    • ติดต่อเรา
    • คำถามพบบ่อย
    • คนไข้ใหม่
    • เข้าสู่ระบบสมาชิก
  • English
  • 0 items

ปวดข้อศอก จี๊ดๆ หลังเล่นแบดมินตัน เทนนิส หรือกอล์ฟ รีบดูแลก่อนเรื้อรัง!

ปวดข้อศอก จี๊ดๆ หลังเล่นแบดมินตัน เทนนิส หรือกอล์ฟ รีบดูแลก่อนเรื้อรัง!
อาการปวดมือ ปวดข้อมืออาการเจ็บนักกีฬา

ปวดข้อศอก จี๊ดๆ อาการที่เหล่านักกีฬาโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบกีฬาใช้แขนมากอย่างแบดมินตัน เทนนิส หรือกอล์ฟ มักพบเจอโดยไม่รู้ตัว บางคนเริ่มจากแค่ปวดแปลบ ๆ เมื่อเหวี่ยงแขนหรือจับของ แต่หากละเลย อาจกลายเป็นอาการอักเสบเรื้อรังที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งในเรื่องงาน กีฬา และกิจกรรมที่เคยทำได้อย่างคล่องตัว โดยบทความนี้ Newton Em Clinic จะพานักกีฬาทุกท่านมาทำความรู้จักอาการ “ปวดข้อศอก” ที่มักเกิดหลังการเล่นกีฬา พร้อมแนวทางสังเกตอาการที่ไม่ควรมองข้าม วิธีดูแลเบื้องต้น และการรักษาด้วยกายภาพบำบัดที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง มาติดตามไปพร้อม ๆ กัน

ปวดข้อศอก จี๊ดๆ จากการเล่นกีฬาประเภทเหวี่ยงแขนและข้อศอก ต้องดูแลยังไงไม่ให้ส่งผลระยะยาวต่อการเล่น

อาการปวดข้อศอกจี๊ด ๆ หลังเล่นกีฬา โดยเฉพาะกีฬาที่ใช้แขนและข้อมือซ้ำ ๆ อย่างแบดมินตัน เทนนิส หรือกอล์ฟ อาจฟังดูเหมือนอาการเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแล อาจกลายเป็นอาการเรื้อรังที่รักษาได้ยากขึ้น เช่น Tennis Elbow หรือ Golf Elbow ซึ่งมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยเฉพาะกับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ

สาเหตุของอาการปวดข้อศอกจากการเล่นกีฬา

อาการปวดข้อศอกที่มักเกิดขึ้นหลังเล่นกีฬาเหล่านี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นรอบข้อศอกซ้ำ ๆ หรือใช้แรงมากเกินไป จนเกิดการอักเสบหรือบาดเจ็บสะสม โดยเฉพาะในท่าที่ต้อง “เหวี่ยง” แขนหรือข้อมือบ่อยครั้ง

ตัวอย่างสาเหตุที่พบบ่อย เช่น…

  • การจับไม้แบดหรือไม้เทนนิสแน่นเกินไป
  • การเหวี่ยงแขนซ้ำในท่าที่ไม่ถูกต้อง
  • การใช้กล้ามเนื้อข้อศอกมากเกินไปโดยไม่มีการยืดเหยียดที่เหมาะสม
  • การเล่นกีฬาต่อเนื่องนานเกินไปโดยไม่พักเพียงพอ

อย่างไรก็ตาม แม้อาการปวดข้อศอกจากการเล่นกีฬาอาจดูเหมือนไม่รุนแรงในช่วงแรก แต่หากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแล อาจกลายเป็นการบาดเจ็บเรื้อรังที่ต้องใช้เวลาฟื้นฟูนานขึ้น การใส่ใจในท่าทางการเล่น พักให้เพียงพอ และไม่ฝืนเล่นเมื่อเริ่มรู้สึกปวด เป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันปัญหาเหล่านี้ ที่สำคัญ หากเริ่มมีอาการบ่อยครั้งหรือรุนแรงขึ้น ควรปรึกษานักกายภาพบำบัดเพื่อวางแผนดูแลอย่างตรงจุดก่อนที่อาการจะลุกลามจนกระทบชีวิตประจำวัน

5 อาการแบบนี้ที่ควรระวัง นักกีฬาแนวแร็กเกตต้องรู้

อาการปวดข้อศอกอาจเริ่มต้นจากความรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย แต่หากมีสัญญาณต่อไปนี้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ หรือรุนแรงขึ้น ควรให้ความสำคัญและรีบเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาการที่ดูเหมือนเล็กน้อยอาจเป็นสัญญาณของภาวะ เอ็นอักเสบบริเวณข้อศอก หรือที่เรียกกันว่า Tennis Elbow และ Golf Elbow ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจกลายเป็นอาการเรื้อรังที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้

  1. รู้สึกปวดจี๊ดบริเวณข้อศอกเมื่อขยับแขนหรือจับของ โดยเฉพาะเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องใช้มือหรือข้อมือ เช่น หิ้วของ ยกกระเป๋า เปิดประตู หรือแม้แต่หมุนฝาขวด อาการปวดมักเกิดขึ้นทันทีหรือไม่นานหลังจากออกแรง
  2. อาการปวดร้าวจากข้อศอกไปยังแขนท่อนล่าง เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาการอักเสบอาจลามไปยังเส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่เชื่อมต่อจากข้อศอกไปยังข้อมือ ซึ่งจะรู้สึกตึง ปวด หรือเมื่อยล้าตลอดแนวแขนท่อนล่าง
  3. มีอาการตึงหรือเกร็งเวลาหยิบจับสิ่งของ ผู้ป่วยหลายรายมักรู้สึกว่ามือไม่มีแรง ข้อมืออ่อน หรือควบคุมการหยิบจับได้ยากขึ้น เช่น หยิบแก้วน้ำแล้วเกือบหล่น หรือบีบของไม่ถนัดเหมือนเดิม อาการตึงนี้อาจมาพร้อมกับความรู้สึกแสบร้อนหรือเจ็บแปลบที่ข้อศอก
  4. มีอาการปวดแม้ไม่ได้เล่นกีฬา หากอาการปวดข้อศอกยังคงอยู่แม้ในวันปกติที่ไม่ได้ออกกำลังกาย หรือไม่ได้ใช้แขนหนัก ๆ นั่นอาจหมายถึงว่าอาการอักเสบได้เข้าสู่ระยะเรื้อรังแล้ว ซึ่งไม่ควรปล่อยไว้โดยไม่รับการรักษา เพราะอาจลุกลามจนส่งผลต่อกล้ามเนื้อและเส้นประสาทรอบ ๆ
  5. อาการปวดรุนแรงขึ้นเมื่อทำกิจกรรมซ้ำเดิม เช่น เล่นแบดมินตัน หรือยกของในท่าเดิมซ้ำ ๆ แล้วรู้สึกเจ็บมากกว่าเดิม นี่อาจเป็นสัญญาณว่าเนื้อเยื่อภายในข้อศอกยังไม่ได้รับการฟื้นฟู และยิ่งถูกกระตุ้นให้อักเสบมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากพบว่าตนเองมีอาการเหล่านี้ต่อเนื่องมากกว่า 1–2 สัปดาห์ หรือรู้สึกว่าความเจ็บปวดเริ่มรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การพบผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้วางแผนการรักษา ฟื้นฟู และป้องกันไม่ให้กลายเป็นอาการเรื้อรังในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางการดูแลอาการเจ็บที่ข้อศอกจี๊ด ๆ แบบเบื้องต้นก่อนเรื้อรัง

หากเริ่มมีอาการปวดจี๊ดบริเวณข้อศอกจากการเล่นกีฬา เช่น แบดมินตัน เทนนิส หรือกอล์ฟ การดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดโอกาสเกิดอาการเรื้อรังในอนาคตได้ โดยสามารถเริ่มจากแนวทางเบื้องต้นดังนี้….

1.พักการใช้งานข้อศอก

หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงจากแขนหรือข้อมือซ้ำ ๆ โดยเฉพาะกีฬาที่ใช้ท่าทางเดิมตลอด เช่น แบดมินตันหรือเทนนิส เพราะการใช้งานข้อศอกในลักษณะซ้ำเดิมซ้ำ ๆ อาจทำให้เอ็นบริเวณข้อศอกเกิดการระคายเคืองและอักเสบมากขึ้น

2.ประคบเย็นทันทีหลังเริ่มปวด

การประคบเย็นภายใน 48 ชั่วโมงแรกจะช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้ดี ควรใช้ถุงเจลเย็นหรือผ้าห่อน้ำแข็งวางบนบริเวณที่ปวดนานประมาณ 15–20 นาที วันละ 2–3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างในการประคบเพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากความเย็น

3.ยืดเหยียดกล้ามเนื้อแขนอย่างถูกวิธี

การยืดเหยียดกล้ามเนื้อแขนโดยเฉพาะกลุ่มกล้ามเนื้อปลายแขนและข้อมือจะช่วยลดความตึงตัวและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด แต่ควรทำภายใต้คำแนะนำจากนักกายภาพบำบัด หรือศึกษาวิธีการยืดเหยียดที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดแรงกระตุ้นเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

4.ปรับท่าทางและเทคนิคการเล่นกีฬา

ท่าทางที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บซ้ำที่ข้อศอก เช่น การจับไม้ผิดวิธี หรือการใช้กล้ามเนื้อแขนมากเกินไปโดยไม่แบ่งแรงไปยังลำตัวหรือหัวไหล่ หากเล่นกีฬาประจำ ควรให้โค้ชหรือผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำวิธีการเล่นที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับสรีระของตนเอง

5.เข้ารับกายภาพบำบัดหากอาการไม่ดีขึ้น

หากพักและดูแลเบื้องต้นแล้วยังมีอาการปวดต่อเนื่อง หรือเริ่มมีอาการรบกวนกิจวัตรประจำวัน เช่น ปวดเวลาพิมพ์งาน จับของ หรือบีบมือต่าง ๆ แนะนำให้เข้ารับการประเมินโดยนักกายภาพบำบัด เพื่อวางแผนการรักษาอย่างตรงจุดและป้องกันการเรื้อรังในระยะยาว

วิธีการรักษาและดูแลด้วยการทำการกายภาพบำบัดช่วยได้อย่างไร

กายภาพบำบัดเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการปวดข้อศอก โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยาแก้ปวดหรือการฉีดยาชา ซึ่งอาจให้ผลเพียงชั่วคราวแต่ไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การบำบัดจะเริ่มจากการประเมินอาการโดยละเอียด ทั้งในด้านโครงสร้างกล้ามเนื้อ ข้อต่อ ความยืดหยุ่น การเคลื่อนไหว รวมถึงกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการ เพื่อออกแบบแผนการรักษาที่เฉพาะเจาะจงต่อผู้ป่วยแต่ละราย เช่น

การคลายกล้ามเนื้อเฉพาะจุด (Manual Therapy)

เทคนิคการนวดหรือกดจุดกล้ามเนื้อที่มีการตึงตัวหรือมีพังผืด เพื่อคลายแรงตึง ลดการกดทับเส้นประสาท และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณข้อศอกฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

การใช้เครื่องมือบำบัด เช่น คลื่นไฟฟ้า หรืออัลตราซาวด์

เครื่องมือทางกายภาพบำบัด เช่น TENS (Transcutaneous Electrical Nerve Stimulation) หรือ Ultrasound Therapy ช่วยลดอาการปวด ลดการอักเสบ และกระตุ้นการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อโดยไม่รบกวนการทำงานของร่างกาย

การออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูและเสริมความแข็งแรง

เมื่ออาการปวดลดลงแล้ว นักกายภาพบำบัดจะออกแบบแบบฝึกกล้ามเนื้อรอบข้อศอกและข้อมือ เพื่อเสริมความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และความทนทานของเนื้อเยื่อ ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บซ้ำอีกในอนาคต

ให้คำแนะนำเรื่องการปรับพฤติกรรมและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

เช่น เทคนิคการยืดเหยียดที่เหมาะสม การวอร์มอัพก่อนเล่นกีฬา ท่าทางการใช้งานแขนที่ถูกต้อง และการเลือกใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ปลอกรัดข้อศอก เพื่อช่วยลดแรงกระแทกระหว่างทำกิจกรรม

การเริ่มต้นดูแลตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ร่วมกับการรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญทางกายภาพบำบัด จะช่วยให้คุณกลับมาใช้งานข้อศอกได้เต็มประสิทธิภาพ และป้องกันไม่ให้ปัญหาเดิมกลับมากวนใจซ้ำอีก

สรุปข้อควรรู้เกี่ยวกับ “อาการเจ็บจี๊ด ๆ ที่ข้อศอกของนักกีฬา” หลังจากเล่นหรือฝึกซ้อม

ท้ายที่สุด แม้อาการเจ็บจี๊ด ๆ ที่ข้อศอกอาจดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยในช่วงแรก แต่ความจริงแล้วอาการนี้มักเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการอักเสบจากการใช้งานกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นซ้ำ ๆ โดยเฉพาะในนักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง หากไม่รีบดูแล อาจลุกลามกลายเป็นอาการเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและความสามารถในการเล่นกีฬาได้ในระยะยาว

สิ่งสำคัญคือการไม่ละเลยอาการปวดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นหลังเล่นหรือฝึกซ้อม เมื่อเริ่มรู้สึกไม่สบาย ควรหยุดพัก หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ปวด และหมั่นสังเกตว่าอาการดีขึ้นหรือไม่ การยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม ร่วมกับการปรับท่าทางการเล่น ก็เป็นอีกหนึ่งทางช่วยลดแรงกระแทกที่ข้อศอกได้ดี

และหากอาการไม่ทุเลาหลังจากดูแลเบื้องต้น หรือกลับมาปวดซ้ำบ่อยครั้ง การเข้ารับการประเมินจากนักกายภาพบำบัดจะช่วยให้เข้าใจสาเหตุที่แท้จริง และวางแผนการฟื้นฟูได้ตรงจุด เพื่อให้นักกีฬาทุกประเภทกลับมาเคลื่อนไหวอย่างมั่นใจ และเล่นกีฬาได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง

——————————–

ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้มีประสบการณ์ทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง

บทความที่น่าสนใจ

  • ปวดเอวเวลานอน-สาเหตุการนอนไม่หลับ แก้ยังไงดี
  • “ปวดหลังเรื้อรัง” 6 พฤติกรรมที่ทำให้คุณปวดหลังแบบไม่รู้ตัว
  • “ฝังเข็ม” วิธีรักษาทางกายภาพบำบัดของโรคออฟฟิศซินโดรม

ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม

Newton Em Clinic เป็นคลินิกกายภาพที่มุ่งเน้นการบริการทางด้านกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ออฟฟิศซินโดรม และอาการปวดตามส่วนต่างๆ เช่นหลัง บ่า เข่า และข้อ เป็นต้น ด้วยบริการต่างๆ ดังนี้ กายภาพบำบัดทั่วไป กายภาพบำบัดหลังผ่าตัด การรักษาอาการบาดเจ็บทางกีฬา นวดการกีฬา โปรแกรมยืดกล้ามเนื้อ โปรแกรมเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาก่อนแข่ง โปรแกรมฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังแข่ง การตรวจโครงสร้างทางร่างกาย โปรแกรมออกกำลังกายในน้ำ โปรแกรมออกกำลังกายรักษาอาการปวดพิลาทิส รับปรึกษาแผนการพัฒนาความคิดและพฤติกรรมสำหรับเด็ก และกายภาพบำบัดในท่อน้ำนมอุดตันสำหรับหญิงหลังคลอด ซึ่งเรามีความรู้ในการดูแลและประสบการณ์ด้านการรักษา เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายตามมาตรฐานด้วยเทคนิคเฉพาะทาง พร้อมทั้งสามารถให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพจากทีมนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์โดยตรง เหมาะสำหรับกลุ่มนักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกาย และผู้ที่มีภาวะจำเป็นที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดเช่น กายภาพบำบัดหลังการผ่าตัด คุณแม่หลังคลอดและผู้สูงอายุ 

ปัจจุบันเรามีคลินิกที่พร้อมให้บริการจำนวน 6 สาขา โดยแต่ละสาขาจะมีการให้บริการ การรักษาขั้นพื้นฐานที่เหมือนกัน และยังมีการให้บริการที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางของแต่ละสาขา โดยนักกายภาพที่มีประสบการณ์และผ่านการอบรมเฉพาะด้านเพื่อผลิตผู้รักษาให้ตรงตามอาการของผู้ป่วยทุกคน คลินิก Newton Em พร้อมให้บริการจำนวน 6 สาขา

  • สาขาลาดพร้าว เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขาทองหล่อ เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขากาญจนาภิเษก เบอร์โทร 099-553-9445, 083-559-5954
  • สาขาพระราม 6 เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขารามคำแหง เบอร์โทร 099-553-9445, 02-115-5353
  • สาขาราชพฤกษ์ เบอร์โทร 096-264-4250

เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 10:00 น. – 19:00 น.

ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม

Tel: 099-553-9445

ปรึกษา หรือ ติดตามความรู้สุขภาพอื่นๆได้ตามช่องทางด้านล่าง

   facebook_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic   Youtube_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic   instagram_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic

Newton-EM-_โลโก้ขาว_compressed

About US

At Newton Em Clinic, our experienced therapists are able to treat a variety of different injuries and conditions. If you have any specific questions, Please do not hesitate to contact our therapists.

ข่าวสารล่าสุด

  • ปวดข้อศอก จี๊ดๆ หลังเล่นแบดมินตัน เทนนิส หรือกอล์ฟ รีบดูแลก่อนเรื้อรัง! มิ.ย. 25

    ปวดข้อศอก ...

  • ปวดข้อศอก ยืดแขนไม่ได้ จนตีกอล์ฟไม่ถนัด รีบแก้ก่อนอาการหนัก มิ.ย. 25

    “ปวด...

  • ปวดข้อศอกร้าวลงแขน ตั้งวงสวิงไม่ถนัด นักกีฬากอล์ฟแก้ยังไงดี? มิ.ย. 25

    ปวดข้อศอกร...

ความรู้สุขภาพล่าสุด

  • ปวดข้อศอก จี๊ดๆ หลังเล่นแบดมินตัน เทนนิส หรือกอล์ฟ รีบดูแลก่อนเรื้อรัง!
  • ปวดข้อศอก ยืดแขนไม่ได้ จนตีกอล์ฟไม่ถนัด รีบแก้ก่อนอาการหนัก
  • ปวดข้อศอกร้าวลงแขน ตั้งวงสวิงไม่ถนัด นักกีฬากอล์ฟแก้ยังไงดี?
  • ตีกอล์ฟแล้วปวดมือ เสี่ยง Golf Wrist Injury หรือไม่ โปรกอล์ฟต้องรู้
  • วิ่งแล้วเจ็บหน้าแข้ง ระหว่างการแข่ง ยังวิ่งต่อได้ไหมหรือควรหยุดทันที?

⭐⭐⭐⭐⭐

Rating: 5 out of 5.
Copyright ©2020 Newtonemclinic all rights reserved
นโยบาย ความเป็นส่วนตัว ข้อตกลงการใช้เว็บไซต์