NEWTONEM
×
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
    • เรื่องราวคลินิก
    • ทำไมถึงควรให้เราดูแล
    • สิ่งที่เราแตกต่าง
    • ทีมของเรา
    • ร่วมเป็นทีมเดียวกัน
  • บริการคลินิก
    • บริการรักษาของคลินิก
    • คอร์สอบรมออนไลน์
  • อาการปวด
    • ตามส่วนของร่างกาย
    • ตามประเภทการปวด
    • ตามประเภทกีฬา
  • สาขา
    • สาขาพระราม 6
    • สาขาลาดพร้าว
    • สาขาทองหล่อ
    • สาขากาญจนาภิเษก
    • สาขารามคำแหง
    • สาขาราชพฤกษ์
  • บทความ
  • ผู้ป่วยใหม่
  • ติดต่อเรา
    • ติดต่อเรา
    • คำถามพบบ่อย
    • คนไข้ใหม่
    • เข้าสู่ระบบสมาชิก
  • English
  • 0 items

วิ่งแล้วเจ็บน่อง วิธีแก้ ง่าย ๆ ที่นักวิ่งต้องรู้ ฟื้นฟูได้ไว วิ่งได้เหมือนเดิม

วิ่งแล้วเจ็บน่อง วิธีแก้ ง่าย ๆ ที่นักวิ่งต้องรู้ ฟื้นฟูได้ไว วิ่งได้เหมือนเดิม
อาการปวดขาอาการเจ็บนักกีฬา

วิ่งแล้วเจ็บน่อง ปัญหากวนใจที่นักวิ่งหลายคนต้องเคยเจอ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มวิ่งหรือสายมาราธอนมากประสบการณ์ อาการเจ็บตึงที่น่องอาจทำให้นักวิ่งรู้สึกไม่มั่นใจหรือไม่กล้าวิ่งต่อ หากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแลอย่างถูกวิธี อาจลุกลามจนเป็นการบาดเจ็บเรื้อรังได้ ในบทความนี้ Newton Em Clinic จะพาทุกคนไปดูสาเหตุที่ทำให้เจ็บน่องขณะวิ่ง พร้อมวิธีฟื้นฟูที่สามารถทำได้เองง่าย ๆ เพื่อให้เหล่านักวิ่งกลับมาวิ่งได้อย่างมั่นใจแลสามารถกลับมาออกกำลังกายได้อีกครั้ง

“วิ่งแล้วเจ็บน่อง” อาการเจ็บเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม ควรฟื้นฟูยังไงดีให้กลับมาวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เจ็บน่องหลังวิ่ง เป็นหนึ่งในอาการที่นักวิ่งหลายคนต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นนักวิ่งมือใหม่หรือสายมาราธอนระดับโปร หากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแลอย่างถูกวิธี อาการเล็ก ๆ นี้อาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่รบกวนการวิ่งและการใช้ชีวิตประจำวันได้ ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า “ทำไมถึงเจ็บน่องเวลาวิ่ง” พร้อมแนะนำ “วิธีแก้เจ็บน่องง่าย ๆ” ที่สามารถทำได้เอง ช่วยฟื้นฟูอาการให้กลับมาวิ่งได้เหมือนเดิมอย่างมั่นใจ ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น มาติดตามไปพร้อม ๆ กัน

สาเหตุที่ทำให้เจ็บน่องหลังวิ่ง มีอะไรบ้าง?

อาการเจ็บน่องหลังวิ่งมีหลายสาเหตุ ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยร่วมกัน ดังนี้…

1.ใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไป (Overuse)

กล้ามเนื้อน่องต้องทำงานหนักมากในการพาร่างกายเคลื่อนไหวไปข้างหน้า โดยเฉพาะเวลาวิ่งขึ้นเนินหรือเร่งความเร็ว หากไม่มีการวอร์มอัพหรือพักกล้ามเนื้อที่เพียงพอ ก็อาจทำให้เกิดอาการตึงหรือเจ็บน่องได้

2.กล้ามเนื้อน่องตึงหรือยืดหยุ่นไม่ดี

ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อน่องมีผลต่อการก้าวเท้าและการลงน้ำหนัก หากกล้ามเนื้อแข็งหรือขาดการยืดเหยียด ก็จะทำให้เกิดการบาดเจ็บจากการดึงรั้งระหว่างวิ่ง

3.เลือดไหลเวียนไม่ดีขณะออกกำลังกาย

การไหลเวียนของเลือดที่ไม่ดีอาจทำให้เกิดการสะสมของกรดแลคติกในกล้ามเนื้อ ส่งผลให้รู้สึกปวดเมื่อยหรือเจ็บน่องหลังวิ่งได้

4.สวมรองเท้าที่ไม่เหมาะสมกับรูปเท้า

รองเท้าเป็นอุปกรณ์สำคัญของนักวิ่ง หากเลือกรองเท้าที่ไม่รองรับแรงกระแทก หรือไม่เหมาะกับสรีระเท้า ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ็บน่องได้

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอาการเจ็บน่องหลังวิ่ง ซึ่งหากสามารถสังเกตและเข้าใจสาเหตุของตัวเองได้อย่างชัดเจน ก็จะช่วยให้คุณเลือกวิธีดูแล ฟื้นฟู และป้องกันได้ตรงจุดมากขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมฟังเสียงของร่างกาย หมั่นวอร์มอัพ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และเลือกรองเท้าที่เหมาะสมก่อนออกวิ่งทุกครั้ง เพื่อให้การวิ่งของนักวิ่งทุกคนเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และสนุกได้ในทุกก้าวของการวิ่งของตนเอง

วิธีแก้อาการเจ็บน่องหลังวิ่ง ฟื้นฟูได้ไว ทำได้ด้วยตัวเอง

แม้ว่าอาการเจ็บน่องจะดูน่ากังวล แต่หากดูแลอย่างถูกวิธี ก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ลองทำตามวิธีต่อไปนี้…

1. พักกล้ามเนื้อและประคบเย็น

เมื่อเริ่มรู้สึกเจ็บ ควรหยุดวิ่งทันทีและประคบเย็นบริเวณน่อง 15–20 นาที เพื่อลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวด

2. ยืดกล้ามเนื้อน่องอย่างสม่ำเสมอ

การยืดกล้ามเนื้อทั้งก่อนและหลังวิ่ง จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดโอกาสการบาดเจ็บ เช่น ท่ายืดกล้ามเนื้อน่องด้วยการยืนพิงกำแพง แล้วก้าวขาไปข้างหลังเล็กน้อย พร้อมกดส้นเท้าลงกับพื้น

3. นวดคลายกล้ามเนื้อหรือใช้โฟมโรลเลอร์

การนวดหรือใช้โฟมโรลเลอร์ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและลดการตึงของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อน่องได้ดี

4. ดื่มน้ำและรับประทานอาหารที่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ

การดื่มน้ำเพียงพอและรับประทานอาหารที่มีโปรตีน วิตามิน B และแมกนีเซียม จะช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็วขึ้น

5. ใส่รองเท้าวิ่งที่เหมาะกับรูปเท้าและสภาพพื้นผิว

รองเท้าที่ดีควรรองรับแรงกระแทกและเหมาะกับลักษณะเท้าของแต่ละคน ควรเปลี่ยนรองเท้าวิ่งทุก ๆ 500–800 กิโลเมตร เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

อย่างไรก็ดี อาการเจ็บน่องหลังวิ่งอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากละเลยก็อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการฝึกซ้อมและการพัฒนาศักยภาพในการวิ่งได้ การรู้ทันสาเหตุและใส่ใจฟื้นฟูกล้ามเนื้ออย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณกลับมาวิ่งได้อย่างมั่นใจ แข็งแรง และลดโอกาสบาดเจ็บซ้ำในอนาคต อย่าลืมสังเกตร่างกายทุกครั้งที่รู้สึกผิดปกติ และให้ความสำคัญกับการดูแลกล้ามเนื้อให้พร้อมก่อนออกวิ่งเสมอ แล้วนักวิ่งทุกคนจะสามารถออกกำลังกายได้ตามที่ใจต้องการ

การทำกายภาพเพื่อรักษาภาวะ “กล้ามเนื้อน่องอักเสบ” มีอาการบวมและตึงจากการวิ่ง

นอกจากแนวทางการดูแลด้วยวิธีเบื้องต้นที่กล่าวมาแล้ว หากอาการปวดยังไม่มีอาการดีขึ้น ก็สามารถรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดด้วยวิธีที่หลากหลาย เช่น…

การตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (EMG)

เป็นการสอดขั้วกระแสไฟฟ้ารูปร่างคล้ายเข็มผ่านผิวหนังเข้าไปภายในกล้ามเนื้อ วิธีนี้จะช่วยตรวจหากล้ามเนื้อที่อ่อนแอหรือถูกทำลายจากการเกิดกล้ามเนื้ออักเสบ โดยเครื่องจะบันทึกสัญญาณไฟฟ้าของปลายเส้นประสาท เพื่อให้แพทย์สามารถดูว่ามีรูปแบบการทำงานผิดปกติหรือไม่

การทำ MRI Scan

เป็นการวินิจฉัยโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพลังงานสูงเพื่อสร้างภาพกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเนื้อเยื่อโดยรอบแบบละเอียด ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นจุดที่มีการอักเสบหรือการฉีกขาดเล็ก ๆ ที่อาจไม่แสดงอาการชัดเจน อย่างไรก็ตาม การตรวจด้วย MRI มักใช้ในกรณีที่อาการเรื้อรังหรือมีอาการรุนแรง เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

เครื่องอัลตร้าซาวด์

นอกจากใช้เพื่อการวินิจฉัยแล้ว อัลตร้าซาวด์ยังถูกนำมาใช้ในด้านการรักษาทางกายภาพบำบัดอีกด้วย โดยคลื่นเสียงความถี่สูงจากเครื่องจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด คลายกล้ามเนื้อที่แข็งเกร็ง และลดการตึงตัวของกล้ามเนื้อบริเวณที่บาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครื่องไฮเพาเวอร์เลเซอร์

เครื่องเลเซอร์พลังงานสูงชนิดนี้ใช้คลื่นแสงพิเศษยิงลงลึกไปยังกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นที่อักเสบ เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ลดอาการปวด บวม และฟื้นฟูบริเวณที่บาดเจ็บให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ นิยมใช้ในนักกีฬาที่ต้องการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

เครื่องอบความร้อนลึก

เป็นการใช้ความร้อนในระดับลึกช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนเลือดในบริเวณที่บาดเจ็บ และลดอาการอักเสบ ความร้อนที่แทรกซึมลึกลงไปยังชั้นกล้ามเนื้อจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นและลดความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีวิธีรักษาที่เรียกว่า “Trigger Point Therapy” เป็นการรักษาที่ลดอาการปวดที่เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อ ด้วยการสลายจุด Trigger Point และป้องกันการกลับมาของอาการปวด ใช้เวลาในการรักษาเพียงอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง โดยทำประมาณ 4 – 6 ครั้ง

ขั้นตอนในการรักษานั้นมีตั้งแต่ การกินยา การฝังเข็ม การทำกายภาพบำบัด และการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ซึ่งขึ้นกับความรุนแรงของอาการแต่ละบุคคลที่มากน้อยแตกต่างกันไป แต่ผู้ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อทุก ๆ คนต้องเข้าใจว่า อาการนี้จะไม่หายขาด เพราะโรคนี้ส่วนใหญ่แล้วมาจากการทำงาน ทุกคนจึงควรได้รับความรู้ที่ถูกต้องและการดูแลกล้ามเนื้อให้ถูกวิธี อาการดังกล่าวก็จะหายไปได้

——————————–

ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง

บทความที่น่าสนใจ

  • ปวดเอวเวลานอน-สาเหตุการนอนไม่หลับ แก้ยังไงดี
  • “ปวดหลังเรื้อรัง” 6 พฤติกรรมที่ทำให้คุณปวดหลังแบบไม่รู้ตัว
  • “ฝังเข็ม” วิธีรักษาทางกายภาพบำบัดของโรคออฟฟิศซินโดรม

ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม

Newton Em Clinic เป็นคลินิกกายภาพที่มุ่งเน้นการบริการทางด้านกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ออฟฟิศซินโดรม และอาการปวดตามส่วนต่างๆ เช่นหลัง บ่า เข่า และข้อ เป็นต้น ด้วยบริการต่างๆ ดังนี้ กายภาพบำบัดทั่วไป กายภาพบำบัดหลังผ่าตัด การรักษาอาการบาดเจ็บทางกีฬา นวดการกีฬา โปรแกรมยืดกล้ามเนื้อ โปรแกรมเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาก่อนแข่ง โปรแกรมฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังแข่ง การตรวจโครงสร้างทางร่างกาย โปรแกรมออกกำลังกายในน้ำ โปรแกรมออกกำลังกายรักษาอาการปวดพิลาทิส รับปรึกษาแผนการพัฒนาความคิดและพฤติกรรมสำหรับเด็ก และกายภาพบำบัดในท่อน้ำนมอุดตันสำหรับหญิงหลังคลอด ซึ่งเรามีความรู้ในการดูแลและประสบการณ์ด้านการรักษา เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายตามมาตรฐานด้วยเทคนิคเฉพาะทาง พร้อมทั้งสามารถให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพจากทีมนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์โดยตรง เหมาะสำหรับกลุ่มนักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกาย และผู้ที่มีภาวะจำเป็นที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดเช่น กายภาพบำบัดหลังการผ่าตัด คุณแม่หลังคลอดและผู้สูงอายุ 

ปัจจุบันเรามีคลินิกที่พร้อมให้บริการจำนวน 6 สาขา โดยแต่ละสาขาจะมีการให้บริการ การรักษาขั้นพื้นฐานที่เหมือนกัน และยังมีการให้บริการที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางของแต่ละสาขา โดยนักกายภาพที่มีประสบการณ์และผ่านการอบรมเฉพาะด้านเพื่อผลิตผู้รักษาให้ตรงตามอาการของผู้ป่วยทุกคน คลินิก Newton Em พร้อมให้บริการจำนวน 6 สาขา

  • สาขาลาดพร้าว เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขาทองหล่อ เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขากาญจนาภิเษก เบอร์โทร 099-553-9445, 083-559-5954
  • สาขาพระราม 6 เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขารามคำแหง เบอร์โทร 099-553-9445, 02-115-5353
  • สาขาราชพฤกษ์ เบอร์โทร 096-264-4250

เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 10:00 น. – 19:00 น.

ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม

Tel: 099-553-9445

ปรึกษา หรือ ติดตามความรู้สุขภาพอื่นๆได้ตามช่องทางด้านล่าง

   facebook_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic   Youtube_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic   instagram_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic

Newton-EM-_โลโก้ขาว_compressed

About US

At Newton Em Clinic, our experienced therapists are able to treat a variety of different injuries and conditions. If you have any specific questions, Please do not hesitate to contact our therapists.

ข่าวสารล่าสุด

  • วิ่งแล้วน่องตึง ยืดท่าไหนให้วิ่งสบายได้กว่าเดิม? เม.ย. 28

    “วิ่...

  • วิ่งแล้วเจ็บน่อง วิธีแก้ ง่าย ๆ ที่นักวิ่งต้องรู้ ฟื้นฟูได้ไว วิ่งได้เหมือนเดิม เม.ย. 28

    วิ่งแล้วเจ...

  • รักษาอาการบาดเจ็บจากการวิ่ง บริเวณกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นและข้อเข่า เม.ย. 28

    รักษาอาการ...

ความรู้สุขภาพล่าสุด

  • วิ่งแล้วน่องตึง ยืดท่าไหนให้วิ่งสบายได้กว่าเดิม?
  • วิ่งแล้วเจ็บน่อง วิธีแก้ ง่าย ๆ ที่นักวิ่งต้องรู้ ฟื้นฟูได้ไว วิ่งได้เหมือนเดิม
  • รักษาอาการบาดเจ็บจากการวิ่ง บริเวณกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นและข้อเข่า
  • เตรียมตัวก่อนวิ่งมาราธอน สำหรับนักกีฬามือใหม่ วิ่งยังไงให้ปลอดภัย?
  • รักษากล้ามเนื้ออักเสบ ที่ไหนดี-Newton Em Clinic คำตอบของทุกคน

⭐⭐⭐⭐⭐

Rating: 5 out of 5.
Copyright ©2020 Newtonemclinic all rights reserved
นโยบาย ความเป็นส่วนตัว ข้อตกลงการใช้เว็บไซต์