NEWTONEM
×
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
    • เรื่องราวคลินิก
    • ทำไมถึงควรให้เราดูแล
    • สิ่งที่เราแตกต่าง
    • ทีมของเรา
    • ร่วมเป็นทีมเดียวกัน
  • บริการคลินิก
    • บริการรักษาของคลินิก
    • คอร์สอบรมออนไลน์
  • อาการปวด
    • ตามส่วนของร่างกาย
    • ตามประเภทการปวด
    • ตามประเภทกีฬา
  • สาขา
    • สาขาพระราม 6
    • สาขาลาดพร้าว
    • สาขาทองหล่อ
    • สาขากาญจนาภิเษก
    • สาขารามคำแหง
    • สาขาราชพฤกษ์
  • บทความ
  • ผู้ป่วยใหม่
  • ติดต่อเรา
    • ติดต่อเรา
    • คำถามพบบ่อย
    • คนไข้ใหม่
    • เข้าสู่ระบบสมาชิก
  • English
  • 0 items

“โรคพาร์กินสัน” บำบัดได้ด้วยการทำกายภาพ

“โรคพาร์กินสัน” บำบัดได้ด้วยการทำกายภาพ
แสดงทั้งหมด

“โรคพาร์กินสัน” เป็นโรคของความเสื่อมทางสมองที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุที่มักจะพบว่าเป็นโรคนี้อยู่มาก โดยในปัจจุบันนั้นยังไม่มีวิธีการรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้ แต่การรีบให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญวินิจฉัยและได้รับการดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ นั้นก็จะช่วยชะลออาการของโรคให้กับผู้ป่วยได้ ซึ่งหนึ่งในวิธีการดูแลและฟื้นฟูผู้ป่วยโรคนี้ก็คือการทำ กายภาพบำบัด นั่นเอง

"โรคพาร์กินสัน" บำบัดได้ด้วยการทำกายภาพ

“โรคพาร์กินสัน” คืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไร?

เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของสมองและระบบประสาทที่พบได้บ่อยเป็นอันดับที่ 2 รองจากโรคอัลไซเมอร์ สถิติผู้ป่วยเป็นโรคพาร์กินสันทั่วโลกอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1 ในผู้ที่อายุเกิน 65 ปี สำหรับในประเทศไทยมีการเก็บรวบรวมสถิติการเกิดโรค จากสภากาชาดไทยพบว่าอุบัติการณ์การเกิดโรคพาร์กินสันอยู่ที่ 425 คน ต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งพบมากในประชากรแถบภาคกลางของประเทศ คนไทยสมัยโบราณรู้จักโรคพาร์กินสันมานานแล้วในนามของ “โรคสันนิบาตลูกนก” แต่ก็ไม่ได้มีการบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ ปัจจุบันคนไทยตื่นตัวเรื่องนี้มากขึ้น ผู้ป่วยจึงได้มาพบแพทย์เร็วขึ้นทำให้ได้รับการดูแลแต่เนิ่นๆ นั่นเอง

สาเหตุ

โรคพาร์กินสัน เกิดจากความเสื่อมของเซลล์สมองที่มีความสามารถในการสร้าง โดปามีน หรือ สารสื่อประสาทที่มีหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวและการทรงตัว (Dopamine) บริเวณเบซัลแกงเกลีย (Basal Ganglion) และก้านสมอง เมื่อเซลล์สมองเสื่อมสภาพหรือถูกทำลายไป การสร้างสารโดปามีนจึงลดลง ทำให้เกิดอาการสั่น เคลื่อนไหวช้า แข็งเกร็ง การเดินและการทรงตัวลำบาก

อาการ

ในส่วนของอาการของโรคนี้ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มอาการหลักคือ

  • อาการทางการเคลื่อนไหว

อาการทางการเคลื่อนไหวที่บุคคลทั่วไปพอทราบกันนั้นคืออาการสั่น

  • อาการระบบอื่นๆ

ที่ไม่ได้เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว  แต่นอกจากอาการสั่นแล้วก็ยังมีอาการอื่นอีก ได้แก่ เคลื่อนไหวช้า ร่างกายแข็งเกร็ง หลังค่อม เดินลำบากและล้มง่าย

กลุ่มอาการที่สามารถสังเกตได้

  • สั่น

เกิดอาการสั่นเมื่ออยู่นิ่งมากกว่าตอนที่เคลื่อนไหว พบมากบริเวณ มือ เท้า อาจพบที่ลิ้นและคาง

  • กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง

มักเกิดอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะแขน ขา ลำตัว

  • เคลื่อนไหวช้า

ผู้ป่วยขาดความกระฉับกระเฉงในการเคลื่อนไหว อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหกล้มได้

  • การแสดงออกทางสีหน้า

ใบหน้าผู้ป่วยจะแสดงสีหน้าไม่มีอารมณ์ เฉยเมย ผู้ป่วยสามารถขยับมุมปากได้เพียงเล็กน้อย

ระดับอาการของโรคพาร์กินสัน

อาการพาร์กินสันสามารถจำแนกได้ 5 ระดับ ได้แก่

ระดับที่ 1:

เกิดอาการสั่นเพียงเล็กน้อยในการเดิน ยืน การแสดงออกทางสีหน้า ซึ่งยังสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ปกติ

ระดับที่ 2:

เกิดอาการสั่นทั้งสองข้าง อาการแข็งเกร็ง การยืน เดิน ผิดปกติและมีลำตัวคดงอเล็กน้อย การดำเนินชีวิตประจำวันยังปกติแต่บางอย่างอาจทำได้ยากขึ้น

ระดับที่ 3:

เกิดอาการสั่นทั้งสองข้าง เริ่มทรงตัวไม่ค่อยอยู่ ร่างกายเริ่มสูญเสียสมดุลทำให้เดินช้าลง ผู้ป่วยมีโอกาสล้มได้ในระยะนี้

ระดับที่ 4: 

เกิดอาการสั่นทั้งสองข้างหนักมากจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงต้องมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด

ระดับที่ 5:

เกิดอาการสั่นทั้งสองข้างอย่างรุนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองทำให้เป็นผู้ป่วยติดเตียง นอกจากนี้ผู้ป่วยยังมีอาการประสาทหลอนเกิดขึ้นด้วย

แนวทางการรักษา

จากที่กล่าวไปข้างต้นว่า โรคความเสื่อมทางสมองชนิดนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด ดังนั้น หากใครที่ทราบว่าตนเองหรือคนใกล้ตัวมีโอกาสที่จะเป็นผู้ป่วยโรคนี้จึงควรดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อไม่ให้อาการแย่ลงนั่นเอง

การดูแลและรักษาในการประคองอาการผู้ป่วย สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 วิธี คือ

1.การรักษาด้วยยา ทั้งรับประทานและฉีด 2. การรักษาทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู เช่น การทำกายภาพบำบัด อรรถบำบัด เป็นต้น 3. การรักษาด้วยการผ่าตัดในกรณีที่อาการของผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อยา

ตัวอย่าง กิจกรรมกายภาพบำบัดที่ช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน

  • การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย

เนื่องจากผู้ป่วยพาร์กินสันจะมีความตึงและเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายและการขยับข้อต่อมีความลำบาก ดังนั้นการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย เคลื่อนไหวร่างกายได้ง่าย และสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ดีขึ้น

  • การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

เนื่องจากผู้ป่วยพาร์กินสันจะมีโครงสร้างของร่างกายที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป ที่สังเกตเห็นได้ชัด เช่น หลังค่อม ไหล่ห่อ เข่าและสะโพกเหยียดไม่สุด ติดอยู่ในท่างอ ซึ่งทำให้เกิดความไม่สมดุลกันของกล้ามเนื้อร่างกาย การออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงจะช่วยปรับสมดุลของกล้ามเนื้อร่างกาย ทำให้โครงสร้างของร่างกายดีขึ้น และสามารถลุกขึ้นยืน เดินได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยชะลอการดำเนินไปของโรคพาร์กินสันได้อีกด้วย

  • การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความทนทานของร่างกาย

การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความทนทานของร่างกายในผู้ป่วยพาร์กินสัน อาจจะออกกำลังกายโดยการเดิน ว่ายน้ำ หรือการปั่นจักรยานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลทำให้ระบบการทำงานของหัวใจ ปอด และการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตประจำวันโดยไม่เหนื่อยง่าย และยังสามารถช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์สมองได้อีกด้วย

  • การออกกำลังกายเพื่อฝึกการทรงตัวรักษาสมดุลของร่างกาย

การทรงตัวขาดความสมดุลเป็นปัญหาที่มักพบบ่อยในผู้ป่วยพาร์กินสัน ส่งผลให้การทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันยากลำบาก เช่น การลุกขึ้นยืน การยืน และการเดิน เป็นต้น ดังนั้นการออกกำลังกายเพื่อฝึกการทรงตัวรักษาสมดุลของร่างกายจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากกับผู้ป่วยกลุ่มนี้ เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นคงในการทำกิจกรรมต่างๆของผู้ป่วย การฝึกแกว่งแขน การฝึกก้าวขายาวในผู้ป่วยพาร์กินสันจะช่วยให้ผู้ป่วยเดินได้ง่ายและคล่องขึ้น อีกทั้งยังลดปัจจัยเสี่ยงต่อการล้มของผู้ป่วยได้อีกด้วย

  • การฝึกออกเสียง และการฝึกกลืน

จะพบว่าผู้ป่วยพาร์กินสันมักจะพูดและกลืนได้ลำบาก การฝึกออกเสียง การพูดช้าๆชัดๆและออกเสียงให้ดัง การฝึกให้ผู้ป่วยออกเสียงโดยการร้องเพลง หรือชวนพูดคุยเพื่อให้ผู้ป่วยตอบโต้กับผู้อื่นจึงมีความสำคัญ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาการออกเสียง และการกลืนลำบากได้

  • การฝึกหายใจ

เนื่องจากภาวะตึงของกล้ามเนื้อและการแข็งเกร็งของแนวแกนกลางลำตัว ผู้ป่วยพาร์กินสันจึงมักจะหายใจได้สั้นและถี่ ทำให้มีอาการหอบเหนื่อยได้ง่าย การฝึกการหายใจโดยให้มีการขยายของซี่โครงในระดับต่างๆ และฝึกให้ผู้ป่วยใช้กล้ามเนื้อกระบังลมในการหายใจจะช่วยลดอาการดังกล่าวลงได้ อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อได้อีกด้วย

อย่างไรก็ดี นอกจากการออกกำลังกายเหล่านี้แล้ว ผู้ป่วยโรคนี้ต้องได้รับการบำบัดในกิจกรรมการกระตุ้นความจำด้วย เพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยได้ฝึกคิดและจำ ซึ่งจะทำให้ระบบสมองของผู้ป่วยได้ทำงานอยู่เสมอ ทั้งนี้ บุคคลที่สำคัญที่สุดในการดูแลผู้ป่วยไม่ใช่มีเพียงแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น หากแต่รวมสมาชิกในครอบครัวที่ต้องหมั่นดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดและสังเกตอาการของผู้ป่วยเสมอ เพียงเท่านี้ โรคพาร์กินสัน ก็จะไม่ใช่โรคที่น่ากลัวอีกต่อไป

——————————–

ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง

บทความที่น่าสนใจ

  • นั่งนาน ปวดหลัง แก้ได้ไม่ยาก
  • ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
  • ปวดหัว มึนหัว ปวดกระบอกตา คล้ายไมเกรน

ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม

Newton Em Clinic เป็นคลินิกกายภาพที่มุ่งเน้นการบริการทางด้านกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ออฟฟิศซินโดรม และอาการปวดตามส่วนต่างๆ เช่นหลัง บ่า เข่า และข้อ เป็นต้น ด้วยบริการต่างๆ ดังนี้ กายภาพบำบัดทั่วไป กายภาพบำบัดหลังผ่าตัด การรักษาอาการบาดเจ็บทางกีฬา นวดการกีฬา โปรแกรมยืดกล้ามเนื้อ โปรแกรมเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาก่อนแข่ง โปรแกรมฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังแข่ง การตรวจโครงสร้างทางร่างกาย โปรแกรมออกกำลังกายในน้ำ โปรแกรมออกกำลังกายรักษาอาการปวดพิลาทิส รับปรึกษาแผนการพัฒนาความคิดและพฤติกรรมสำหรับเด็ก และกายภาพบำบัดในท่อน้ำนมอุดตันสำหรับหญิงหลังคลอด ซึ่งเรามีความรู้ในการดูแลและประสบการณ์ด้านการรักษา เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายตามมาตรฐานด้วยเทคนิคเฉพาะทาง พร้อมทั้งสามารถให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพจากทีมนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์โดยตรง เหมาะสำหรับกลุ่มนักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกาย และผู้ที่มีภาวะจำเป็นที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดเช่น กายภาพบำบัดหลังการผ่าตัด คุณแม่หลังคลอดและผู้สูงอายุ 

ปัจจุบันเรามีคลินิกที่พร้อมให้บริการจำนวน 6 สาขา โดยแต่ละสาขาจะมีการให้บริการ การรักษาขั้นพื้นฐานที่เหมือนกัน และยังมีการให้บริการที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางของแต่ละสาขา โดยนักกายภาพที่มีประสบการณ์และผ่านการอบรมเฉพาะด้านเพื่อผลิตผู้รักษาให้ตรงตามอาการของผู้ป่วยทุกคน คลินิก Newton Em พร้อมให้บริการจำนวน 6 สาขา

  • สาขาลาดพร้าว เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขาทองหล่อ เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขากาญจนาภิเษก เบอร์โทร 099-553-9445, 083-559-5954
  • สาขาพระราม 6 เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขารามคำแหง เบอร์โทร 099-553-9445, 02-115-5353
  • สาขาราชพฤกษ์ เบอร์โทร 096-264-4250

เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 10:00 น. – 19:00 น.

ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม

Tel: 099-553-9445

ปรึกษา หรือ ติดตามความรู้สุขภาพอื่นๆได้ตามช่องทางด้านล่าง

   facebook_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic   Youtube_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic   instagram_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic

 

Add Comment Cancel


Newton-EM-_โลโก้ขาว_compressed

About US

At Newton Em Clinic, our experienced therapists are able to treat a variety of different injuries and conditions. If you have any specific questions, Please do not hesitate to contact our therapists.

ข่าวสารล่าสุด

  • ปวดข้อศอก จี๊ดๆ หลังเล่นแบดมินตัน เทนนิส หรือกอล์ฟ รีบดูแลก่อนเรื้อรัง! มิ.ย. 25

    ปวดข้อศอก ...

  • ปวดข้อศอก ยืดแขนไม่ได้ จนตีกอล์ฟไม่ถนัด รีบแก้ก่อนอาการหนัก มิ.ย. 25

    “ปวด...

  • ปวดข้อศอกร้าวลงแขน ตั้งวงสวิงไม่ถนัด นักกีฬากอล์ฟแก้ยังไงดี? มิ.ย. 25

    ปวดข้อศอกร...

ความรู้สุขภาพล่าสุด

  • ปวดข้อศอก จี๊ดๆ หลังเล่นแบดมินตัน เทนนิส หรือกอล์ฟ รีบดูแลก่อนเรื้อรัง!
  • ปวดข้อศอก ยืดแขนไม่ได้ จนตีกอล์ฟไม่ถนัด รีบแก้ก่อนอาการหนัก
  • ปวดข้อศอกร้าวลงแขน ตั้งวงสวิงไม่ถนัด นักกีฬากอล์ฟแก้ยังไงดี?
  • ตีกอล์ฟแล้วปวดมือ เสี่ยง Golf Wrist Injury หรือไม่ โปรกอล์ฟต้องรู้
  • วิ่งแล้วเจ็บหน้าแข้ง ระหว่างการแข่ง ยังวิ่งต่อได้ไหมหรือควรหยุดทันที?

⭐⭐⭐⭐⭐

Rating: 5 out of 5.
Copyright ©2020 Newtonemclinic all rights reserved
นโยบาย ความเป็นส่วนตัว ข้อตกลงการใช้เว็บไซต์