“หักนิ้ว” ให้เสียงดัง บรรเทาอาการปวดจริงหรือ?
“หักนิ้ว” การผ่อนคลายนิ้วมือแบบหนึ่งที่เรามักทำกันเมื่อมีอาการปวดเมื่อยตามนิ้วหรือตามข้อต่างๆ ซึ่งหลายๆ คนอาจทำไปโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่บางคนทำเช่นนี้จนชินแล้ว อย่างไรก็ดี การหักข้อนิ้วให้เสียงดังนั้นอาจช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้จริง แต่ก็แค่เพียงในชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น หากแต่มันจะส่งผลที่ดีในระยะยาวหรือไม่ แล้วจะมีโรคร้ายแรงอื่นๆ ตามมาหรือเปล่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องตามศึกษากัน
“หักนิ้ว” ให้เสียงดัง เสียงนั้นเกิดจากอะไร?
จากการศึกษาพบว่า ตรงบริเวณข้อต่อของนิ้ว จะมีของเหลวที่ชื่อว่า Synovial Fluid ซึ่งสารเคมีนี้จะเป็นตัวที่หล่อลื่น เมื่อใดก็ตามที่ข้อต่อถูกใช้งาน เพื่อลดการเสียดสีระหว่างกระดูกและกระดูกอ่อนนั่นเอง ซึ่งของเหลวนั้นประกอบไปด้วยก๊าซออกซิเจน ไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ และแรงดันที่เปลี่ยนก๊าซเหล่านี้ให้เป็นฟองอากาศและเสียงดังที่เราได้ยินนั้น ก็ไม่ใช่เสียงใดอื่น แต่มันคือเสียงฟองอากาศเหล่านั้นที่แตกออกนั่นเอง
การหักข้อนิ้วเช่นนี้อันตรายหรือไม่ จะทำให้เกิดข้อเสื่อมหรือเปล่า?
หลาย ๆ คนคงเริ่มสงสัยกันว่า แล้วถ้าเราหักนิ้วกันบ่อย ๆ จะเป็นอะไรไหม จะเสี่ยงเป็นอะไรร้ายแรงหรือเปล่า ซึ่งคำตอบก็คือ การหักนิ้วไม่มีความเสี่ยงอะไรที่ส่งผลต่อโรคภัยไข้เจ็บ หรือโรคที่ร้ายแรงถึงชีวิตอะไร แต่การหักนิ้วบ่อย ๆ ก็มีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้กระดูกโปนใหญ่ได้ ยิ่งหากเป็นกระดูกของเด็กเล็กที่ยังมีการพัฒนาเจริญเติบโตยังไม่เต็มที่ การหักกระดูกนิ้วอาจทำให้กระดูกเจริญเติบโตผิดปกติ นอกจากจะโปนใหญ่ขึ้นแล้ว อาจทำให้กระดูกผิดรูป บิดเบี้ยว ไม่ได้รูปทรงตามปกติได้นั่นเอง ภาวะข้อเสื่อมเป็นภาวะที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างแน่นอน เพราะมันทำให้เราเคลื่อนไหวได้ลำบาก ข้อสงสัยหนึ่งก็คือการหักข้อต่อจนเกิดเสียงบ่อยครั้ง จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ข้อเสื่อมหรือไม่ ซึ่งจากการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างผู้ที่มีข้อนิ้วเสื่อมโดยมีพฤติกรรมหักข้อนิ้วและไม่หักข้อนิ้ว พบว่า พฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้มีความสัมพันธ์กับโรคข้อเสื่อมแต่อย่างใด การที่ข้อเสื่อมนั้นมาจากปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุที่มากขึ้น กิจกรรมที่ทำซึ่งอาจส่งผลต่อข้อต่อ และพันธุกรรม
5 ท่าบริหารนิ้วอื่นๆ คลายปวดเมื่อย
-
ท่ายืดกล้ามเนื้อเอกซ์เทนเซอร์ (กล้ามเนื้อในการขยับนิ้ว)
แบมือ กางนิ้ว วางมือแนบบนพื้นราบ เช่น บนโต๊ะ ใช้นิ้วมืออีกข้างดึงนิ้วแต่ละนิ้วขึ้นช้า ๆ ให้ได้สูงที่สุด โดยที่ไม่รู้สึกตึงหรือเจ็บ และนิ้วอื่นยังติดอยู่กับพื้น ค้างไว้ 2-3 วินาที แล้วค่อยๆ ปล่อยนิ้วลง ทำซ้ำกับนิ้วมืออีกข้าง ทำท่านี้วันละ 3 เซ็ต
-
ท่ายกนิ้ว
แบมือ กางนิ้ว วางมือแนบบนพื้นราบ เช่น บนโต๊ะ ยกนิ้วแต่ละนิ้วขึ้นช้า ๆ ให้ได้สูงที่สุด โดยที่ไม่รู้สึกตึงหรือเจ็บ และนิ้วอื่นยังติดอยู่กับพื้น เอานิ้วลงช้าๆ ทำให้ครบทั้ง 5 นิ้ว ยกนิ้วทั้ง 5 นิ้วขึ้นพร้อมกัน ค้างไว้ 2-3 วินาที เอานิ้วลงช้าๆ ทำซ้ำกับนิ้วมืออีกข้าง ทำซ้ำ 8-12 ครั้ง
-
ท่าบีบมือ
วางสิ่งของลักษณะเป็นทรงกลม ขนาดพอดีมือ เช่น ลูกปิงปอง ไว้กลางฝ่ามือ บีบให้แน่นๆ แล้วค้างไว้ 2-3 วินาที คลายมือช้า ๆ และกางนิ้วมือให้สุด ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง ทำซ้ำกับนิ้วมืออีกข้าง ทำท่านี้อย่างน้อยวันละ 2 เซ็ต
-
ท่าเหยียดนิ้ว
จดปลายนิ้วทั้งห้าเข้าด้วยกัน ใช้หนังยาง หรือยางรัดผม รัดนิ้วทั้งห้าไว้ด้วยกัน พยายามเหยียดนิ้วแต่ละนิ้วออกให้ได้มากที่สุด และจดนิ้วให้ชิดกันที่สุด ทำซ้ำ 10 ครั้ง ทำซ้ำกับนิ้วมืออีกข้าง ทำท่านี้วันละ 3 เซ็ต
-
ท่ากำหมัด
กำหมัดเบาๆ โดยให้นิ้วโป้งอยู่ข้างนอก พาดทับนิ้วอื่นๆ ค้างไว้ 30-60 วินาที คลายมือช้า ๆ จากนั้นกางนิ้วและเหยียดนิ้วให้สุด ทำซ้ำกับนิ้วมืออีกข้าง ทำซ้ำอย่างน้อย 4 เซ็ต ท้ายที่สุด แม้การหักให้นิ้วเกิดการเสียงดังจะไม่มีอันตรายใดๆ แต่ก็ไม่ควรทำหลายๆ ครั้งติดต่อกันเพื่อความสนุกสนาน เพราะจากที่จะคลายอาการปวดเมื่อ ก็อาจจะกลายเป็นความเสี่ยงอื่นๆ ที่เราไม่รู้ได้อีกนั่นเอง ดังนั้น ควรเลือกทำการบริหารข้อนิ้วท่าอื่นๆ ด้วยเพื่อสุขภาพของนิ้วและข้อมือที่ดีกว่านั่นเอง
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- นั่งนาน ปวดหลัง แก้ได้ไม่ยาก
- ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
- ปวดหัว มึนหัว ปวดกระบอกตา คล้ายไมเกรน