ปวดหัวตุ้บๆ ข้างขวา อาการแบบนี้เป็นไมเกรนหรือเปล่า?
“ปวดหัวตุ้บๆ” อาการยอดนิยมของคนยุค 2022 แน่นอนว่าหากทำเช็คลิสต์อาการป่วยของคนในยุคปัจจุบันออกมา อาการปวดหัวเช่นนี้ต้องเป็นหนึ่งในอาการยอดนิยมอื่นๆ หากแต่อาการปวดหัวนั้นมีหลายแบบ บ้างก็ปวดข้างเดียว บ้างปวดแค่ตรงขยับ และบ้างก็ปวดตุบๆ แล้วก็หายไป ซึ่งก็มักจะทำให้เราสงสัยอยู่บ่อยครั้งว่าการปวดแต่ละแบบนั้นมีความแตกต่างกันหรือไม่ และแบบใดที่ถือว่าเป็นอาการปวดที่อันตรายบ้าง?
ปวดหัวตุ้บๆ ข้างขวา เกิดจากอะไร ใช่ไมเกรนหรือเปล่า?
อาการปวดหัวมีหลายชนิดแตกต่างกันออกไปที่อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวข้างเดียว หรือใบหน้า หลายชนิดไม่เป็นอันตรายและสามารถหายได้เอง แต่บางอาการก็ไม่สามารถหายได้เอง จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อไม่ให้เกิดอาการเรื้อรังและส่งผลที่ร้ายแรงจนควบคุมไม่ได้
สาเหตุของการปวดหัวด้านขวา
อาการปวดหัวข้างขวาโดยทั่วๆไปมักมีสาเหตุมาจากปัจจัย เช่น
ปัจจัยจากการดำเนินชีวิต
เช่น ความเหนื่อยล้า การอดอาหาร กล้ามเนื้อคอมีปัญหา เป็นต้น
การติดเชื้อ และภูมิแพ้
การติดเชื้อไซนัส และภูมิแพ้ก็อาจเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวได้ อาการปวดหัวมาจากไซนัสมีการติดเชื้อ และส่งผลให้เกิดการอักเสบ นำมาซึ่งแรงดัน และอาการปวดที่ด้านหลังโหนกแก้ม และหน้าผาก
การใช้ยามากเกินไป
การใช้ยาเพื่อรักษาอาการปวดหัวมากเกินไปอาจทำให้มีอาการปวดหัวได้ ซึ่งเป็นโรคปวดหัวที่พบได้บ่อย ส่งผลกระทบต่อคนมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ การใช้ยาแก้ปวดหัวมากเกินไปมักทำให้อาการปวดหัวแย่ลงในตอนเช้าเมื่อตื่นนอน
สาเหตุมาจากระบบประสาท
อาการปวดท้ายทอยเส้นประสาทต้นคอ เส้นประสาทท้ายทอยในกระดูกสันหลังบริเวณลำคอส่วนบน ซึ่งวิ่งยาวมายังกล้ามเนื้อถึงหนังศีรษะ การเกิดอาการระคายเคืองกับหนึ่งในเส้นประสาทนี้ส่งผลให้เกิดอาการคล้ายไฟดูด ไฟช็อต หรือคล้ายเข็มทิ่ม มักมีอาการปวดที่หัวด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น
ปวดศีรษะเช่นนี้ เรียกว่า “ไมเกรน” ได้หรือไม่?
ปวดไมเกรนอาจเกิดขึ้นได้ที่ข้างใดข้างหนึ่ง หรืออาจเกิดขึ้นได้ทั้งสองข้าง ส่งผลให้ไวต่อเสียง และแสง คลื่นไส้ และอาเจียน ตาพร่า หรือรู้สึกเสียวแปลบ ชา ซึ่งจะมีความรู้สึกที่คล้ายกับการปวดขมับขวาตุบๆ รุนแรง โดยช่วงก่อน หรือระหว่างมีอาการไมเกรน บางคนอาจเห็น “แสงออร่า” ซึ่งส่วนใหญ่มักเห็นเป็นภาพ แสงออร่าอาจเป็นอาการได้ทั้งอาการด้านบวก และอาการด้านลบ อาการด้านบวกเกิดขึ้นเพราะการกระตุ้นของระบบประสาทส่วนกลาง อาการด้านบวกคือ
- มีการรบกวนทางการมองเห็น เช่น เห็นภาพบิดเบี้ยว หรือแสงวาบ
- มีปัญหาด้านการได้ยิน เช่น เสียงแว่วในหู
- มีอาการทางระบบประสาทรับความรู้สึก เช่น รู้สึกร้อนผ่าว หรือเจ็บปวด
- การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อผิดปกติ เช่น มีการกระตุก หรือการเคลื่อนไหวซ้ำๆ
อาการทางลบคือ อาการที่ให้เห็นจากการทำงานที่เสียไป ซึ่งรวมไปถึงการสูญเสียการมองเห็น การได้ยิน หรือเป็นอัมพาต
แนวทางการบรรเทาอาการปวดเบื้องต้น
วิธีแก้อาการปวดหัวข้างเดียวอย่างรวดเร็วสามารถทำได้หลายวิธี เช่น
- ใช้การประคบอุ่นที่บริเวณด้านหลังคอ หรืออาบน้ำอุ่นเพื่อให้ผ่อนคลาย
- ปรับท่วงท่าให้ดีขึ้นเพื่อบรรเทาความตึงเครียดจากศีรษะ คอ และหัวไหล่
- ออกจากห้อง และไปยังสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ โดยเฉพาะหากแสง เสียง หรือกลิ่นเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวข้างขวา กระบอกตา
การทำกายภาพบำบัดเพื่อลดอาการปวดศีรษะ
การบำบัดทางกายภาพก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการบำบัดอาการปวดหัวจากความเครียด หรือการปวดหัวจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อคอ ซึ่งการปวดจากคอมีปัญหา กล้ามเนื้อตึงที่คออาจทำให้คอแข็ง และกดเส้นประสาทจนทำให้เกิดอาการปวด ซึ่งนักกายภาพบำบัดอาจช่วยจัดการกับบริเวณดังกล่าวได้ และช่วยสอนวิธียืดเส้นเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อขึงตึง และสอนการออกกำลังกายที่จะช่วยบรรเทาอาการในระยะยาวได้ อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงชนิดหนึ่งของอาการปวดเท่านั้น ยังมีอีกหลายอาการที่อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายอื่นๆ อีกก็เป็นได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการที่ทุกคนต้องคอยหมั่นสังเกตอาการของตนเองว่ามีอาการปวดหัวเป็นอย่างไร และถ้าหากมีอาการที่รุนแรงและยาวนานกว่าที่ควรก็ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- นั่งนาน ปวดหลัง แก้ได้ไม่ยาก
- ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
- ปวดหัว มึนหัว ปวดกระบอกตา คล้ายไมเกรน