NEWTONEM
×
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
    • เรื่องราวคลินิก
    • ทำไมถึงควรให้เราดูแล
    • สิ่งที่เราแตกต่าง
    • ทีมของเรา
    • ร่วมเป็นทีมเดียวกัน
  • บริการคลินิก
    • บริการรักษาของคลินิก
    • คอร์สอบรมออนไลน์
  • อาการปวด
    • ตามส่วนของร่างกาย
    • ตามประเภทการปวด
    • ตามประเภทกีฬา
  • สาขา
    • สาขาพระราม 6
    • สาขาลาดพร้าว
    • สาขาทองหล่อ
    • สาขากาญจนาภิเษก
    • สาขารามคำแหง
    • สาขาราชพฤกษ์
  • บทความ
  • ผู้ป่วยใหม่
  • ติดต่อเรา
    • ติดต่อเรา
    • คำถามพบบ่อย
    • คนไข้ใหม่
    • เข้าสู่ระบบสมาชิก
  • English
  • 0 items

“ปวดหัวข้างเดียว” เป็นอะไรแน่ รักษายังไงดี?

“ปวดหัวข้างเดียว” เป็นอะไรแน่ รักษายังไงดี?
แสดงทั้งหมด

“ปวดหัวข้างเดียว” อาการที่หลายๆ คนเคยเป็นหรืออาจจะกำลังรับมืออยู่ในขณะนี้ ซึ่งเมื่อเรามีอาการปวดหัวแบบนี้ โดยส่วนมากก็จะมีการทึกทักกันไปว่าต้องเป็นการปวดไมเกรนอย่างแน่นอน แต่ทุกคนทราบหรือไม่ว่าการปวดหัวข้างเดียวนั้นไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับการปวดไมเกรนเสมอไป เพราะอาการปวดหัวเช่นนี้สามารถเป็นสัญญาณในการบอกอาการป่วยต่างๆ ได้มากมาย เราจึงต้องมาศึกษาให้รู้กันอย่างชัดเจนไปเลยว่าแท้จริงแล้วอาการนี้มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง

"ปวดหัวข้างเดียว" เป็นอะไรแน่ รักษายังไงดี?

“ปวดหัวข้างเดียว” เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณเตือนของโรคอะไรได้บ้าง?

สาเหตุของการปวดศีรษะ

อาการปวดศีรษะมีสาเหตุมาจาก 3 ส่วนใหญ่ ๆ ดังนี้

  • อาการปวดศีรษะแบบทั่วไป

เป็นกลุ่มที่พบบ่อยในกลุ่มอาการปวดศีรษะจากไมเกรน อาการปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ (การปวดศีรษะแบบชุด) เกิดจากระบบรับความรู้สึกในประสาทและสมองเกิดการทำงานผิดปกติ โดยอาการอาจเกิดขึ้นพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน

  • อาการปวดศีรษะจากความผิดปกติของร่างกาย

เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างบริเวณศีรษะและคอ มีสาเหตุมาจากความผิดปกติในสมอง เช่น เนื้องอกในสมอง หลอดเลือดอุดตันในสมอง และอาจเกิดจากอวัยวะบริเวณรอบ ๆ สมองได้อีกด้วย เช่น ไซนัสอักเสบ เป็นต้น

  • อาการปวดศีรษะจากเส้นประสาทและอื่นๆ

เกิดจากการอักเสบของเส้นประสาท เมื่อเกิดการอักเสบจะมีผลต่อใบหน้าทำให้เกิดอาการปวดบริเวณใบหน้าอย่างรุนแรง

อาการปวดศีรษะประเภทต่างๆ

  • ปวดศีรษะข้างเดียว หากผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะข้างเดียวนั่นคืออาการของโรคไมเกรน อาจเป็นข้างใดข้างหนึ่งสลับกันไป โรคนี้มักจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น อาการปวดมักจะเกิดขึ้นเป็นชั่วโมง หรืออาจปวดนานหลายวัน
  • ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ คือ อาการปวดรุนแรงบริเวณรอบดวงตา ลามไปจนขมับด้านใดด้านหนึ่ง มักจะปวดตุบ ๆ เป็นชุด ๆ ในเวลาที่แน่นอน เช่น มักปวดในช่วงเดือนนี้ของทุกปี โดยการปวดจะกินเวลานานหลายสัปดาห์ หรือเป็นเดือน อาการนี้มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
  • ปวดศีรษะทั้งสองข้าง เป็นการปวดศีรษะจากความเครียดเป็นครั้งคราว มักเป็นๆ หายๆ หรือปวดตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไป และอาจนานจนกินเวลาเป็นวันได้ ซึ่งมักพบร่วมกับการปวดไมเกรน หากมีอาการเกิดขึ้นน้อยกว่าครึ่งเดือนจะจัดว่าเป็นการปวดศีรษะจากความเครียดเป็นครั้งคราว แต่ถ้าหากมีอาการปวดมากกว่า 1-3 เดือนจะถือว่าเป็นการปวดศีรษะจากความเครียดแบบเรื้อรัง
  • ปวดศีรษะจากไซนัสทั้งสองข้าง มักมีอาการปวดบริเวณหน้าผาก สันจมูก รวมถึงโหนกแก้ม โดยอาการปวดจะรุนแรงขึ้นเมื่อผู้ป่วยก้มตัว หรือก้มศีรษะลง และมักมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น น้ำมูกไหล มีไข้ หรือใบหน้าบวม เป็นต้น
  • ปวดศีรษะจากเนื้องอกในสมอง จะมีอาการปวดแบบเป็น ๆ หาย ๆ และจะทวีความรุนแรงขึ้นในตอนกลางคืนจนผู้ป่วยต้องตื่นขึ้นมากลางดึก โรคนี้จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากเพราะอาการจะกำเริบตอนเคลื่อนไหวร่างกาย และมักจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ทรงตัวลำบาก สายตาพร่ามัว ไม่มีสมาธิ เป็นต้น

แนวทางการรักษาอาการปวดหัว

1.รักษาด้วยการทานยา

โดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจะให้ยาตามอาการปวดนั้นๆ เช่น หากปวดข้างเดียวก็จะได้รับยาระงับไมเกรน หรือถ้าหากปวดแบบคลัสเตอร์ก็จะได้รับยาระงับอาการทางจิต และยาต้านชักร่วมด้วยนั่นเอง

2. รักษาด้วยการบำบัด

วิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว และผู้ที่มีความตึง เกร็งกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะหรือต้นคอ หากทำกายภาพหรือนวดบำบัดก็จะช่วยให้ดีขึ้นได้

การป้องกันการปวดหัว

หากมองตามสาเหตุหลักๆ แล้ว อาการปวดหัวจะเกิดจากความเครียดและการพักผ่อนน้อยเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การลดความเครียดและพยายามนอนให้เพียงพอ อาจทำกายบริหารท่าง่ายๆ เพื่อลดอาการลงหรือปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญหากมีอาการที่หนักเกินกว่าจะรักษาเอง

ท้ายที่สุด แม้จะเป็นอาการเล็กๆ ไม่ว่าจะปวดข้างเดียว ปวดท้ายทอย ปวดขมับ หรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่สำคัญคือการไม่นิ่งนอนใจ ต้องรีบปรึกษาแพทย์และรักษาโดยทันทีหากมีอาการ เนื่องจากหากปล่อยไว้จากอาการเล็กๆ ก็อาจจะกลายเป็นอาการเรื้อรัง และก้าวเข้าสู่การเป็นโรคร้ายแรงในที่สุด ดังนั้น ควรดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้ป้องกันอาการปวดหัวเหล่านี้ได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพนั่นเอง

——————————–

ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง

บทความที่น่าสนใจ

  • นั่งนาน ปวดหลัง แก้ได้ไม่ยาก
  • ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
  • ปวดหัว มึนหัว ปวดกระบอกตา คล้ายไมเกรน

ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม

Newton Em Clinic เป็นคลินิกกายภาพที่มุ่งเน้นการบริการทางด้านกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ออฟฟิศซินโดรม และอาการปวดตามส่วนต่างๆ เช่นหลัง บ่า เข่า และข้อ เป็นต้น ด้วยบริการต่างๆ ดังนี้ กายภาพบำบัดทั่วไป กายภาพบำบัดหลังผ่าตัด การรักษาอาการบาดเจ็บทางกีฬา นวดการกีฬา โปรแกรมยืดกล้ามเนื้อ โปรแกรมเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาก่อนแข่ง โปรแกรมฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังแข่ง การตรวจโครงสร้างทางร่างกาย โปรแกรมออกกำลังกายในน้ำ โปรแกรมออกกำลังกายรักษาอาการปวดพิลาทิส รับปรึกษาแผนการพัฒนาความคิดและพฤติกรรมสำหรับเด็ก และกายภาพบำบัดในท่อน้ำนมอุดตันสำหรับหญิงหลังคลอด ซึ่งเรามีความรู้ในการดูแลและประสบการณ์ด้านการรักษา เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายตามมาตรฐานด้วยเทคนิคเฉพาะทาง พร้อมทั้งสามารถให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพจากทีมนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์โดยตรง เหมาะสำหรับกลุ่มนักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกาย และผู้ที่มีภาวะจำเป็นที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดเช่น กายภาพบำบัดหลังการผ่าตัด คุณแม่หลังคลอดและผู้สูงอายุ 

ปัจจุบันเรามีคลินิกที่พร้อมให้บริการจำนวน 6 สาขา โดยแต่ละสาขาจะมีการให้บริการ การรักษาขั้นพื้นฐานที่เหมือนกัน และยังมีการให้บริการที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางของแต่ละสาขา โดยนักกายภาพที่มีประสบการณ์และผ่านการอบรมเฉพาะด้านเพื่อผลิตผู้รักษาให้ตรงตามอาการของผู้ป่วยทุกคน คลินิก Newton Em พร้อมให้บริการจำนวน 6 สาขา

  • สาขาลาดพร้าว เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขาทองหล่อ เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขากาญจนาภิเษก เบอร์โทร 099-553-9445, 083-559-5954
  • สาขาพระราม 6 เบอร์โทร 099-553-9445
  • สาขารามคำแหง เบอร์โทร 099-553-9445, 02-115-5353
  • สาขาราชพฤกษ์ เบอร์โทร 096-264-4250

เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 10:00 น. – 19:00 น.

ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม

Tel: 099-553-9445

ปรึกษา หรือ ติดตามความรู้สุขภาพอื่นๆได้ตามช่องทางด้านล่าง

   facebook_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic   Youtube_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic   instagram_นิวตั้น_เอ็ม_คลินิกกายภาพบำบัด_รักษาอาการปวด_newton_em_physio_physical_therapy_clinic

 

Add Comment Cancel


Newton-EM-_โลโก้ขาว_compressed

About US

At Newton Em Clinic, our experienced therapists are able to treat a variety of different injuries and conditions. If you have any specific questions, Please do not hesitate to contact our therapists.

ข่าวสารล่าสุด

  • ปวดข้อศอก จี๊ดๆ หลังเล่นแบดมินตัน เทนนิส หรือกอล์ฟ รีบดูแลก่อนเรื้อรัง! มิ.ย. 25

    ปวดข้อศอก ...

  • ปวดข้อศอก ยืดแขนไม่ได้ จนตีกอล์ฟไม่ถนัด รีบแก้ก่อนอาการหนัก มิ.ย. 25

    “ปวด...

  • ปวดข้อศอกร้าวลงแขน ตั้งวงสวิงไม่ถนัด นักกีฬากอล์ฟแก้ยังไงดี? มิ.ย. 25

    ปวดข้อศอกร...

ความรู้สุขภาพล่าสุด

  • ปวดข้อศอก จี๊ดๆ หลังเล่นแบดมินตัน เทนนิส หรือกอล์ฟ รีบดูแลก่อนเรื้อรัง!
  • ปวดข้อศอก ยืดแขนไม่ได้ จนตีกอล์ฟไม่ถนัด รีบแก้ก่อนอาการหนัก
  • ปวดข้อศอกร้าวลงแขน ตั้งวงสวิงไม่ถนัด นักกีฬากอล์ฟแก้ยังไงดี?
  • ตีกอล์ฟแล้วปวดมือ เสี่ยง Golf Wrist Injury หรือไม่ โปรกอล์ฟต้องรู้
  • วิ่งแล้วเจ็บหน้าแข้ง ระหว่างการแข่ง ยังวิ่งต่อได้ไหมหรือควรหยุดทันที?

⭐⭐⭐⭐⭐

Rating: 5 out of 5.
Copyright ©2020 Newtonemclinic all rights reserved
นโยบาย ความเป็นส่วนตัว ข้อตกลงการใช้เว็บไซต์