ปวดหลังล่าง ปวดสลักเพชร ก้นกบ

ปวดหลังล่าง ปวดสลักเพชร ก้นกบ คืออะไร
ปวดหลังล่าง ปวดสลักเพชร หรือ ก้นกบ ที่เกิดขึ้นสำหรับหลายๆท่านแต่ทานยา ฉีดยา รักษาหลังสารพัดวิธีแล้วไม่หายปวดหลังซักที เพราะอะไรลองอ่านข้อมูลตรงนี้ดูครับ…ต้นเหตุของอาการปวดหลังของท่านอาจจะมาจากกระดูกหรือข้อต่อระหว่างกระดูกกระเบนเหน็บ (Sacrum) ปีกสะโพก (Ilium) และก้นกบ (Coccyx) หรือหลายๆท่านที่มักคุ้นชินหรือเรียกรวมๆกับคำว่าสลักเพชร ซึ่งจริงๆแล้วสลักเพชรนั้นเป็นคำเรียกโรคชนิดหนึ่งของหมอนวดแผนไทย ที่มีอาการปวดที่สะโพก หรือ piriformis syndrome1 ตามพจนานุกรมฉบับภาษาไทยเขียนไว้ว่า คำว่า สลักเพชร คือ รอยบุ๋มตรงสะโพก เวลาเดินจะยักไปยักมาได้2
ปัญหาจากข้อต่อกระดูกกระเบนเหน็บและกระดูกปีกสะโพกหรือที่เรียกว่า Sacroiliac Joint Dysfunction มักจะแสดงอาการปวดหลังส่วนล่างเป็นหลัก อาจจะมีอาการปวดสะโพกร่วมด้วยหรือไม่มีก็ได้ ทำให้ผู้ป่วยหลายรายมัวแต่ไปรักษาอาการปวดหลัง อาจจะนวดบ้าง ทานยาบ้าง แต่แล้วกลับพบว่าทำมาหลายวิธีแล้วไม่อาการปวดหลังก็ไม่หายไปซักที กว่าเราจะรู้ว่าปัญหาอาการปวดหลังเรานั้น จริงๆแล้วมาจากกระดูกก้นกบก็มักจะมีอาการปวดร้าวไปตามสะโพก ขาหนีบ ต้นขา น่องและปลายเท้า (นั่นคือ…อาการหนักไปแล้ว )
…
ถ้าอย่างนั้นเรามาดูอาการหลักๆ ที่บ่งบอกว่าเรามีปัญหาจากเจ้ากระดูกตัวนี้หรือไม่
ลักษณะอาการปวดหลังล่าง ปวดสลักเพชร ก้นกบ
- อาการที่มักจะแสดงออกมาก่อนก็คือ “ปวดหลังล่าง” อาการปวดมักจะปวดร้าวลึกๆข้างในกระดูก ไม่ว่าจะขยับยังไงอาการปวดก็ทุเลาลงได้เพียงชั่วคราว
2. มีอาการปวดขัดๆ แหลมๆบริเวณข้อต่อ กระเบนเหน็บ ในรายที่ปวดมากจะปวดร้าวลงขาด้วย แต่อาการปวดจะทุเลาลงเมื่อเดินไปได้สักระยะ
3. อยู่ท่าใดท่าหนึ่งนานๆไม่ได้ โดยเฉพาะท่านั่งหรือต้องขับรถทางไกลนานๆ รถติดนานๆ ต้องคอยขยับถ่ายน้ำหนักซ้าย-ขวา อยู่นิ่งไม่ได้ และจะปวดเพิ่มขึ้นทันทีเมื่อเปลี่ยนจากท่านั่งเป็นลุกขึ้นยืน
4. ทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันลำบากและยากขึ้น โดยเฉพาะการขึ้นลงบันได การนอน การลุกจากที่นอน บางรายขณะเดินๆอยู่อาจจะรู้สึกเข่าทรุด ขาพับไปเองทั้งที่ไม่มีอาการปวดก็ได้ รู้สึกขาอ่อนแรง เมื่อยล้าง่าย
5. บางรายไม่มีอาการปวดหลัง แต่มีอาการตรงขาหนีบ ปวดตามแนวขอบกางเกงใน บางรายปวดมากจะมีอาการชาร้าวไม่ตามสะโพก เข่า และขาด้านหลัง ดังจะเห็นตามรูปคือ
รูป A: ลักษณะการปวดร้าวจากปัญหากระดูกก้นกบ กระเบนเหน็บ สลักเพชร
รูป B: เส้นประสาท Sciatic nerve เป็นเส้นประสาทที่ลอดผ่านกระดูกก้นกบลงมาเลี้ยงตามขาส่วนล่าง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้ป่วยบางรายที่มีปัญหาบริเวณนี้ จะมีอาการปวดร้าว กล้ามเนื้ออ่อนแรง ตามแนวที่เส้นประสาทนี้เลี้ยง

6. ส่วนมากผู้ที่มีปัญหา Sacroiliac Joint Dysfunction นี้มักจะพบว่าเมื่อ x-ray ดูกระดูกแล้วไม่เจออะไรผิดปกติ…ก็แน่นอนละครับ เพราะ x-ray เห็นลักษณะความหนาแน่นของกระดูก (เช่น เอาไว้บอกความหนาบาง การแตก หัก บิ่น ร้าว เสื่อม ไม่เสื่อม) แต่ไม่สามารถมองเห็นเส้นเอ็นข้อต่อ เนื้อเยื่อรอบๆข้อต่อ กล้ามเนื้อรอบๆข้อต่อได้ ซึ่งส่วนมากผู้ที่มีปัญหา Sacroiliac Joint Dysfunction นี้มักจะมีต้นเหตุมาจากโครงสร้างอย่างหลังมากกว่า ผู้ป่วยก็จะยิ่งนอยส์กังวลไปใหญ่ว่าจะเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทแน่ๆ เพราะมีอาการปวดร้าวลงขา…ใจเย็นๆครับ ดูข้อมูลต่อไป เพราะกายภาพบำบัดช่วยตรวจแยกให้คุณได้

7. อันนี้ชัดเลยครับ…ลองสังเกตตัวเองง่ายๆ ว่าเวลาเดินนานๆ คุณเป็นคนที่ต้องคอยหมุนกระโปรงหรือกางเกงกลับเข้าสู่แนวกลางหรือไม่ ถ้าใช่ละก็…สงสัยได้เลยครับว่ากระดูกก้นกบ กระเบนเหน็บหรือเชิงกราน อาจจะบิดเบี้ยวผิดแนว และนำไปสู่ปัญหา Sacroiliac Joint Dysfunction ตามมาได้

มารู้สาเหตุของอาการปวดหลังล่าง ปวดสลักเพชร ก้นกบ

เพื่อให้รู้สาเหตุของอาการปวดและรักษาให้หายได้อย่างรวดเร็วเรามารู้จักโครงสร้างกระดูกตามหมายเลขและตำแหน่งในรูปภาพกันก่อนนะครับ
- ข้อต่อ Sacroiliac Joint
- กระดูกเชิงกราน Ilium
- กระดูกก้นกบ Sacrum
- กระดูกสันหลังส่วนล่าง Lumbar Spine
- ข้อสะโพก
- เส้นประสาท Sciatic Nerve
ดังนั้น Sacroiliac Joint Dysfunction คือการที่บริเวณก้นกบต่อกับกระดูกเชิงกรานหรือที่หลายๆท่านมักเรียกว่าบริเวณนี้ว่าสลักเพชร แต่ไม่ว่าจะเรียกบริเวณนี้ว่าอะไรในภาษาไทย มันก็คือข้อต่อตรงนี้ (กระดูก Sacrum กับกระดูก Ilium จึงเรียกว่า sacroiliac joint) มีการเคลื่อนไหวผิดปกติไป…นั่นคือ อาจจะมากไป หรือน้อยไปแล้วส่งผลต่อการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ไม่สมดุลกันระหว่างฝั่งซ้ายขวา ทำให้เกิดอาการปวด อักเสบ บางคนมีการยึดติด อักเสบของเอ็นบริเวณนี้
ตัวอย่างกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่อาจะทำให้ Sacroiliac Joint ไม่สมดุลกันและเกิดอาการปวด

- กระดูกเสื่อม หรือ อักเสบ ซึ่งมักพบในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40ปีขึ้นไปและมีประวัติอาการปวดหลังเรื้อรังมานาน หรือมีประวัติหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมร่วมด้วย ก็ไม่แปลกที่จะเกิดปัญหาบริเวณข้อนี้ได้

2. ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ เนื่องจากเวลาตั้งครรภ์สะโพกของคุณผู้หญิงจะเกิดการขยายตัว และด้วยฮอร์โมนในขณะตั้งครรภ์จะทำให้เส้นเอ็นที่เคยมีความแข็งแรงกระชับก็อ่อนตัวลง ทำให้ข้อสะโพกมีความมั่นคงน้อยลง

3. นักกีฬา เพราะกีฬาส่วนใหญ่ต้องมีการขยับเคลื่อนไหวตลอดเวลา รวมถึงบางกีฬามีการปะทะกันอย่างรุนแรง
4. รวมถึงสาเหตุอื่นๆในชีวิตประจำวัน เช่น การนั่งไขว่ห้าง การยืนลงน้ำหนักขาเพียงข้างเดียว และการเกิดอุบัติเหตุ
การรักษาทางกายภาพบำบัดอาการ ปวดหลังล่าง ปวดสลักเพชร ก้นกก
ลดอาการปวดและคลายกล้ามเนื้อ
การรักษาทางกายภาพบำบัดด้วยวิธีการที่ไม่ใช้ยาและเป็นที่นิยมในต่างประเทศ เพราะเป็นการรักษาจากต้นเหตุของปัญหาที่แท้จริง โดยนักกายภาพบำบัดจะช่วยลดปวด ผ่านวิธีการรักษาต่างๆไม่ว่าจะเป็นการคลายจุดกดเจ็บ การขยับข้อต่อเพื่อลดปวด การใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดและเทคโนโลยีต่างๆเพื่อลดปวดและเร่งซ่อมแซมอาการบาดเจ็บเฉพาะจุด หรือพูดง่ายๆคือปวดตรงไหน รักษาตรงนั้นไปเลย ไม่ต้องรอฤทธิ์ยาที่ต้องวิ่งผ่านทางกระแสเลือดไปทั่วร่างกาย ไม่ได้รับผลสะสมข้างเคียงของยาในผู้ป่วยบางรายที่มีข้อควรระวังการใช้ยา

เพิ่มการเคลื่อนไหว
การเพิ่มการเคลื่อนไหวเป็นสิ่งสำคัญมากในการแก้ไขปัญหานี้ เนื่องจากปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความไม่สมดุล (ซึ่งหมายถึงข้อต่อข้างหนึ่งทำงานมากไป ขณะที่อีกข้างหนึ่งทำงานน้อยกว่าเพราะเกิดจากการยึดติดกันของข้อต่อ) ดังนั้นการเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อต่อฝั่งที่ทำงานน้อยกว่า ไม่ว่าจะเป็นการขยับข้อต่อโดยนักกายภาพบำบัด การออกกำลังกายเพื่อรักษา ก็จะช่วยสร้างสมดุลที่ดีให้กับร่างกาย พอเกิดสมดุลกับตัวกระดูก ข้อต่อและกล้ามเนื้อ แน่นอนว่า….อาการปวดก็จะลดลงและหายไป

แก้ไขโครงสร้าง
การแก้ไขโครงสร้าง รวมถึงการปรับพฤติกรรมเป็นสิ่งสำคัญหลังการรักษาจนหายปวดเพื่อหลีกเลี่ยงการกลับมาเป็นซ้ำ เพราะหากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคุณเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้กระดูกและข้อต่อบิดเบี้ยว ไม่สมดุลแล้วละก็ คุณควรปรับโครงสร้างร่างกายและพฤติกรรม เช่น นั่งหลังตรง ลงน้ำหนักขาให้เท่ากันทั้งสองข้อง ไม่อยู่ท่าใดท่าหนึ่งนานๆ

การวางโปรแกรมรักษาสำหรับนักกีฬา
นักกีฬาที่ยังคงต้องใช้งานซ้ำๆเฉพาะส่วนของร่างกาย จำเป็นต้องมีการวางแผนการรักษาเพื่อเตรียมความพร้อมของกระดูก กล้ามเนื้อ ข้อต่อ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานด้านความแข็งแรงของการเล่นกีฬาโดยไม่มีอาการบาดเจ็บ ซึ่งหากเป็นนักกีฬาอาชีพอาจจำเป็นที่ต้องวางแผนร่วมกันกับโค้ช และนักวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อให้ผลที่ดีที่สุด

การดูแลตัวเองเบื้องต้น
- การประคบเย็นและการประคบร้อน หากมีอาการปวดในช่วง 1-5 วันแรก แนะนำให้ทำการประคบเย็น โดยใช้ผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งและทำการประคบไว้ 20 นาที ทำได้ทุกๆ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการปวดเรื้อรังมาเป็นเวลานานและไม่มีอาการบวม หรือ แดง บริเวณที่ปวด สามารถใช้ถุงร้อนประคบเป็นเวลา 20นาที ทุกๆ 2 ชั่วโมงได้เช่นกัน
- การยืดคลายความตึงของกล้ามเนื้อและเส้นประสาทด้านหลัง โดยใช้เท้าพิงที่กำแพงและยืดค้างไว้ให้รู้สึกตึงแต่ไม่เจ็บเป็นเวลา 15 วินาที และสลับทำ 2 ข้าง สามารถทำซ้ำๆบ่อยๆได้ แต่ต้องไม่มีอาการเจ็บ หากมีอาการเจ็บหรือปวดมากขึ้นควรหยุดทำและปรึกษานักกายภาพบำบัด

3. นอนหงายชันขาขึ้น 2 ข้างตั้งฉาก จากนั้นยกขา 2 ข้องชิดอก ทำซ้ำช้าๆ ขึ้น-ลง สามารถทำซ้ำๆบ่อยๆได้ แต่ต้องไม่มีอาการเจ็บ หากมีอาการเจ็บหรือปวดมากขึ้นควรหยุดทำและปรึกษานักกายภาพบำบัด

——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- 5 ท่ายืดสลักเพชร ปวดแค่ไหนก็หายได้
- ปวดหลัง นั่งนาน อาการยอดฮิตของคนทำงานที่ต้องแก้
- “เจ็บก้นกบ” จากการนั่งนานๆ อาจเป็นโรคร้ายได้
ทำไมต้องเลือก Newton Em Clinic
Newton Em Clinic เป็นคลินิกภายภาพที่มุ่งเน้นการบริการทางด้านกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ออฟฟิศซินโดรม และอาการปวดตามส่วนต่างๆ เช่น หลัง บ่า เข่า และข้อ เป็นต้น ด้วยบริการต่างๆ ดังนี้ กายภาพบำบัดทั่วไป กายภาพบำบัดหลังผ่าตัด การรักษาอาการบาดเจ็บทางกีฬา นวดการกีฬา โปรแกรมยืดกล้ามเนื้อ โปรแกรมเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาก่อนแข่ง โปรแกรมฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังแข่ง การตรวจโครงสร้างทางร่างกาย โปรแกรมออกกำลังกายในน้ำ โปรแกรมออกกำลังกายรักษาอาการปวด พิลาทิส รับปรึกษาแผนการพัฒนาความคิดและพฤติกรรมสำหรับเด็ก และกายภาพบำบัดในท่อน้ำนมอุดตันสำหรับหญิงหลังคลอด ซึ่งเรามีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายตามมาตรฐานด้วยเทคนิคเฉพาะทาง การดูแล และให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ เพราะเรามีทีมนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์โดยตรง เหมาะสำหรับกลุ่มนักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกาย และผู้ที่มีภาวะจำเป็นที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดเช่น สมองพิการในเด็ก คุณแม่หลังคลอด และผู้สูงอายุ ปัจจุบันเรามีคลินิกที่พร้อมให้บริการจำนวน 4 สาขา โดยแต่ละสาขาจะมีการให้บริการ การรักษาขั้นพื้นฐานที่เหมือนกัน และยังมีการให้บริการที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางของแต่ละสาขา โดยนักกายภาพที่มีประสบการณ์และผ่านการอบรมเฉพาะด้านเพื่อผลิตผู้รักษาให้ตรงตามอาการของผู้ป่วยทุกคน คลินิก Newton Em พร้อมให้บริการจำนวน 4 สาขา
- สาขาลาดพร้าว เบอร์โทร 099-553-9445
- สาขาราชดำริ เบอร์โทร 099-553-9445
- สาขาทองหล่อ เบอร์โทร 099-553-9445
- สาขากาญจนาภิเษก เบอร์โทร 099-553-9445, 083-559-5954
.เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 10:00 น. – 19:00 น.
ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม
Tel: 099-553-9445
ปรึกษา หรือ ติดตามความรู้สุขภาพอื่นๆได้ตามช่องทางด้านล่าง
อ้างอิง
- https://www.cedars-sinai.org/health-library/diseases-and-conditions/s/sacroiliac-joint-dysfunction.html
- https://www.spine-health.com/conditions/sacroiliac-joint-dysfunction/sacroiliac-joint-dysfunction-symptoms-and-causes
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sacroiliitis/symptoms-causes/syc-20350747
- Summitmedicalgroup
- http://crm.nationgroup.com/
- https://www.doctor.or.th/article/detail/3332