ปวดหลัง ก้มไม่ได้ ใช่อาการปวดหลังเรื้อรังหรือไม่?
“ปวดหลัง ก้มไม่ได้” อาการที่หลายๆ คนกำลังประสบปัญหาอยู่ ณ ขณะนี้ และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย เนื่องจากในปัจจุบัน คนไทยเรานั้นมีพฤติกรรมและกิจกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดอาการปวดหลังได้ง่ายๆ แม้จะอายุยังน้อย สาเหตุหลักๆ ของการปวดหลังของคนสมัยนี้มักมาจากการ เรียนออนไลน์ ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ไม่ค่อยมีการขยับหรือเคลื่อนไหวไปไหน จึงทำให้เกิดอาการปวดหลังและยิ่งไปกว่านั้นคือเกิดอาการรุนแรงจนก้มหลังไม่ได้นั่นเอง
ปวดหลัง ก้มไม่ได้ เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่?
อาการนี้อาจเป็นอาการปวดหลังด้านล่าง ซึ่งกล้ามเนื้อหลังตึงหรือมีอาการหลังแข็ง ในตําแหน่งตั้งแต่หลังชายโครงไปถึงส่วนล่างของแก้มก้น โดยบางกรณีจะมีอาการร่วมกับอาการปวดร้าวลงไปที่ขา ซึ่งปัญหาสําคัญของอาการปวดหลังส่วนล่าง คือ อาการปวดและการไม่สามารถดําเนินชีวิตได้เหมือนปกตินั่นเอง
สาเหตุของอาการปวดหลัง
อาการปวดหลังส่วนล่างส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากโรคของหลังซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่
-
โรคของเอ็นและกล้ามเนื้อหลัง
-
โรคความเสื่อมข้อติดกระดูกสันหลัง
-
โรคของหมอนรองกระดูก
-
โรคช่องกระดูกสันหลังตีบ
-
โรคเกี่ยวกับการผิดรูปของกระดูกสันหลัง
ลักษณะอาการ
-
อาการปวดหลังแบบเฉียบพลัน (Acute low back pain)
คือ อาการปวดหลังที่มีอย่างต่อเนื่องน้อยกว่า 6 สัปดาห์
-
อาการปวดหลังกึ่งเฉียบพลัน (Subacute low back pain)
คือ อาการปวดหลังที่มีอย่างต่อเนื่องมากกว่า 6 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 3 เดือน
-
อาการปวดหลังเรื้อรัง (Chronic low back pain)
คือ อาการปวดหลังที่มีอย่างต่อเนื่องมากกว่า 3 เดือน
ปวดหลังแบบนี้ อันตรายหรือไม่?
อาการปวดหลังเช่นนี้ ในบางรายอาจเป็นๆ หายๆ ซึ่งอาการปวดจะลดลงไปเองตามเวลา แต่หากใครมีอาการปวดหลังเรื้อรังเป็นเวลานานมากกว่า 4 สัปดาห์ อย่านิ่งนอนใจ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการ และรับการรักษาอย่างถูกวิธี ก่อนโรคร้ายมาเยือน
โรคร้ายต่างๆ ที่มักพบเมื่อผู้ป่วยมีอาการปวดหลังด้านล่าง
-
โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท (Lumbar disc herniation)
พบในผู้ป่วยอายุน้อยไม่เกิน 50 ปี มักเป็นแบบเฉียบพลัน ภายหลังการยกของหนักหรือหมุนตัวผิด ทำให้มีหมอนรองกระดูกแตกออกไปทับเส้นประสาท ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดร้าวลงไปที่ขา อาจตรวจพบอาการชาและอ่อนแรงของกล้ามเนื้อที่เลี้ยงด้วยเส้นประสาทต่างๆ เช่น L4, L5, S1 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พบบ่อย
-
โรคเอ็นกล้ามเนื้อหลังอักเสบเฉียบพลัน (Acute back strain)
เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งมักจะหายเองได้ใน 1-2 สัปดาห์ ทำให้ผู้ป่วยไม่ได้มาพบแพทย์ อาการที่พบจะปวดหลังแต่ไม่ร้าวไปที่ขา สาเหตุเพราะกล้ามเนื้อหลังแข็งและเกร็งทำให้แนวแอ่นตัวของหลังหายไป เมื่อกดกล้ามเนื้อรอบๆ กระดูกสันหลังจะรู้สึกเจ็บ ลักษณะอาการดังกล่าวอาจเกิดร่วมกับอาการของโรคอื่น ๆ ที่มีลักษณะการเกิดขึ้นเฉียบพลัน เช่น โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท หรือกระดูกแตกหักจากอุบัติเหตุ
-
โรคช่องบรรจุไขสันหลังตีบ (Spinal stenosis)
อาการปวดหลังและขาในผู้ป่วย จะมีอาการค่อยเป็นค่อยไป บางครั้งใช้เวลาเป็นปี อาการปวดบริเวณหลังส่วนล่างและมีการร้าวไปที่ก้น ต้นขาและน่อง มีลักษณะเฉพาะคือ มีอาการปวดหลังร้าวลงขาและมีอาการน่องชาหรือไม่มีแรงเมื่อมีการเดินไกล แต่เมื่อนั่งพักเพียงไม่กี่นาทีอาการก็จะดีขึ้นและสามารถเดินต่อไปได้อีก
แนวทางการรักษา
เนื่องจากสาเหตุของอาการปวดหลังส่วนล่างมีหลากหลายสาเหตุ ซึ่งแต่ละโรคจะมีการรักษาที่เฉพาะของแต่ละโรค ในที่นี้จะกล่าวถึงการรักษาโดยรวมในการดูแลผู้ป่วยปวดหลังและการส่งต่อ ซึ่งในการรักษาผู้ป่วยปวดหลังส่วนล่างมีจุดมุ่งหมายดังนี้
- ลดอาการปวดของผู้ป่วย ให้สามารถขยับตัวได้เป็นปกติและกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิม
- ป้องกันการเกิดซ้ำของโรค โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีสาเหตุมาจากการใช้งานที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
การบรรเทาอาการปวดหลังด้วยการทำกายภาพบำบัด
- เริ่มต้นนอนหงาย ชันเข่าทั้งสองข้างขึ้น และวางแขนทั้งสองไว้ข้างลำตัว จังหวะที่ 1 เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อกดหลังให้แนบพื้น นับ 1-5 ช้า ๆ จังหวะที่ 2 คลายกล้ามเนื้อ ปล่อยพักตามสบาย ทำซ้ำ 5-6 ครั้งวันแรก แล้วเพิ่มขึ้นในวันถัดไป
- ชันเข่าทั้งสองข้างขึ้น จากนั้นใช้มือทั้งสองข้างจับเข่า ค่อย ๆ ดึงเข่าเข้าหาลำตัวช้า ๆ จนรู้สึกตึงบริเวณสะโพกเล็กน้อย โดยให้เอวและสะโพกไม่ลอยจากพื้น ดึงค้างไว้นับ 1-10 คลายออก ทำซ้ำติดต่อกัน 5 ครั้ง
- ชันเข่าขึ้น จากนั้นใช้มือทั้งสองข้างจับเข่าเพื่อยืดกล้ามเนื้อ ค่อย ๆ ดึงเข้าหาลำตัวช้า ๆ จนรู้สึกตึงบริเวณสะโพก ดึงค้างไว้ นับ 1-5 คลายออก ทำซ้ำติดต่อกัน 5 ครั้งของแต่ละข้างสลับกัน
ท้ายที่สุด หากอาการปวดหลังไม่มีท่าทีที่จะดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญให้เร็วที่สุดและอย่านิ่งนอนใจว่า อายุยังน้อย ไม่น่าจะเป็นอะไร อย่าลืมว่าอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้จริงกับทุกเพศทุกวัย ดังนั้น ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ควรรีบไปพบหมอเพื่อรักษาให้หาย มิเช่นนั้นอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกว่าที่คิด
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- นั่งนาน ปวดหลัง แก้ได้ไม่ยาก
- ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
- ปวดหัว มึนหัว ปวดกระบอกตา คล้ายไมเกรน