“ปวดข้างเข่า” อาการนี้อาจบ่งบอกว่าเอ็นเข่ามีปัญหา
“ปวดข้างเข่า” เป็นอาการที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย เนื่องจาก “เข่า” เป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยรองรับน้ำหนักตัวในทุกช่วงขณะที่เราเคลื่อนไหว และก็เป็นธรรมดาที่หลายๆ คนจะมีปัญหาการเจ็บกล้ามเนื้อข้างเข่า อย่างไรก็ดี แม้เป็นอาการปวดทั่วไป แต่การปล่อยไว้ก็ไม่ใช่เรื่องดี ดังนั้น ทุกคนจึงควรทำความรู้จักและเข้าใจอาการของภาวะนี้ให้ละเอียดเพื่อรักษาและป้องกันได้อย่างถูกต้อง
“ปวดข้างเข่า” คือสัญญาณเตือนปัญหาเส้นเอ็นจริงหรือ?
เนื่องจากอาการปวดบริเวณข้างเข่านั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งหนึ่งในนั้น หากไม่นับถึงพฤติกรรมที่เป็นความเสี่ยง ก็อาจเกิดจากเส้นเอ็นหัวเข่าที่อาจเกิดการอักเสบก็เป็นได้
เอ็นต้นขาอักเสบคืออะไร?
เอ็นต้นขาด้านข้างอักเสบ หรือไอทีแบนด์ (Iliotibail Band Syndrome : IT Band) เป็นเส้นเอ็นที่อยู่บริเวณต้นขาด้านนอกเชื่อมกล้ามเนื้อบริเวณด้านข้างและกล้ามเนื้อก้นด้านข้างยาวลงมาผ่านเข่าและมาเกาะบริเวณด้านข้างของกระดูกหน้าแข้ง ทุกก้าวที่เคลื่อนไหว เส้นเอ็นชนิดนี้จะมีการหดและยืด การวิ่งเยอะๆ หรือวิ่งในระยะทางยาวมีผลให้เกิดการอักเสบของเส้นเอ็นข้างขา หรือ เกิดการอักเสบได้ โดยจะมีอาการปวดบริเวณสะโพก ต้นขาด้านนอก และบริเวณข้างเข่าร่วมด้วย
สาเหตุของการเกิดเส้นเอ็นต้นขาอักเสบ
1.ใช้งานซ้ำๆ จนมากเกินไป
ผู้ป่วยบางคนมีพฤติกรรม หรือชีวิตประจำวันที่ต้องใช้งานเส้นเอ็นชนิดนี้เป็นหลัก หรือหาเป็นนักกีฬาก็อาจเกิดจากการหักโหมในการซ้อม ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดกับนักกีฬาหรือผู้ที่ชื่นชอบการปั่นจักรยาน และการวิ่ง เป็นต้น จึงทำให้ช่วงขาต้องใช้งานเส้นเอ็นชนิดนี้หนักๆ ซ้ำๆ กันทุกวัน
2. ท่าทางไม่เหมาะสม ผิดท่า
มักเป็นสาเหตุหลักๆ ของผู้ป่วยหลายคน เนื่องจากในชีวิตประจำวันอาจมีพฤติกรรมที่มีท่าทางไม่เหมาะสมและทำให้เกิดการเสียดสีหรือการพลิกของเส้นเอ็น จนกลายมาเป็นอาการอักเสบในที่สุด
3. โครงสร้างร่างกายผิดปกติ
ทำให้ขณะใช้งานเข่า เอ็นข้างเข่าจะตึงและเสียดสีกระดูกหัวเข่าได้มากกว่าปกติ
ลักษณะอาการ
จากที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า IT Band นั้นเป็นเส้นเอ็นที่อยู่บริเวณต้นขาด้านนอกเชื่อมกล้ามเนื้อบริเวณด้านข้างและกล้ามเนื้อก้นด้านข้างยาวลงมาผ่านเข่าและมาเกาะบริเวณด้านข้างของกระดูกหน้าแข้ง จึงทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดบริเวณสะโพก ต้นขาด้านนอก และบริเวณข้างเข่า ในขณะที่เคลื่อนไหวนั่นเอง
แนวทางการรักษา
-
รักษาด้วยวิธีทางกายภาพบำบัด
ในกรณีที่ผู้ป่วยปวดมากหรือเป็นเรื้อรัง เป็นซ้ำบ่อยๆอาจใช้การฉีดยาสเตียรอยด์ช่วย หรือการทำ Shock wave ก็สามารถช่วยให้หายได้ ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับการพิจารณาจากนักกายภาพบำบัดด้วย
-
รักษาด้วยการนวดและประคบ
เป็นวิธีการเบื้องต้นเมื่อเกิดอาการเจ็บหรือปวดที่กล้ามเนื้อหรือข้อต่างๆ ในร่างกาย โดยการนวดโดยการใช้ Roller ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ และการประคบ ก็ให้ผู้ป่วยใช้การประคบเย็นเข้าช่วย จะบรรเทาการปวดได้ดีกว่าการประคบร้อน หลังจากการประคบหากผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นแล้ว ก็สามารถทำการยืดเหยียดกล้ามเนื้อซึ่งก็ช่วยได้เช่นเดียวกัน
-
รักษาด้วยการทำกายบริหาร
ในการทำกายบริหารนั้น แม้จะเป็นการทำท่าง่ายๆ แต่ก็สามารถช่วยฟื้นฟูอาการปวดให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติในระยะเวลาที่เร็วมากขึ้น
ซึ่ง ท่ากายบริหารที่แนะนำ มีทั้งหมด 4 ท่าด้วยกัน ดังนี้
1.ท่ายืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง
วิธียืด : นอนหงาย คลองยางยืดหรือผ้าไว้บริเวณใต้ส้นเท้า ยกขาขึ้นจนถึงระดับที่รู้สึกตึงบริเวณด้านหลังของขา โดยที่เข่ายังเหยียดตรงอยู่ ยืดค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง
2. ท่ายืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านใน
วิธียืด : นั่งขัดสมาธิโดยนำปลายเท้าทั้งสองข้างชนกัน ดันปลายเท้าเข้าชิดกับลำตัวจนรู้สึกตึงบริเวณต้นขาด้านใน วางศอกลงบนต้นขาและดันลงพร้อมกับโน้มตัวมาด้านหน้าเล็กน้อยโดยที่หลังยังตรงอยู่ ยืดค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง
3.ท่ายืดกล้ามเนื้อหน้าขา
วิธียืด : ยืนตรง งอเข่าข้างที่ต้องการยืดขึ้นพร้อมใช้มือช่วยในการเหยียดสะโพกไปด้านหลังจนถึงจุดที่รู้สึกตึง ดังรูป ยืดค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง
4. ไขว้ขาเอียงลำตัว
วิธียืด : ให้ผู้ป่วยเริ่มต้นจากการยืนตัวตรง หลังจากนั้นไขว้ขวาข้างใดข้างหนึ่งไปทางด้านหน้า หลังจากนั้นให้เอียงลำตัวไปด้านเดียวกัน เช่น หากผู้ป่วยก้าวเท้าขวามาทางด้านหน้าเพื่อไขว้เท้าด้านซ้าย ก็ให้เอียงโน้มลำตัวไปทางด้านขวาเช่นเดียวกัน โดยท่านี้จะช่วยยืดเส้นเอ็นให้ทำงานได้ดีมากขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ดี การรักษาด้วยวิธีการทางกายภาพบำบัดเช่นนี้ ต้องทำควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงด้วย เช่น การใช้งานหนักๆ ซ้ำๆ กัน หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงให้ทำน้อยที่สุด ทั้งนี้ หากผู้ป่วยอยากทราบข้อมูลการรักษาที่ละเอียดมากขึ้นก็สามารถปรึกษาคลินิคกายภาพ หรือ นักกายภาพบำบัด ได้เพื่อผลการรักษาที่ดีและสุขภาพเข่าที่ดี ——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- ฟกช้ำ ดำ เขียว ประคบแบบไหนดีจึงจะหาย?
- “เข่าเสื่อม” เกิดเฉพาะกับผู้สูงวัยเท่านั้น จริงหรือ?
- “โรครองช้ำ” คืออะไร อันตรายมากแค่ไหน?