ชนิดของกล้ามเนื้อ มีอะไรบ้าง? ส่วนไหนเกิดโรคได้ง่ายที่สุด
“ชนิดของกล้ามเนื้อ”เป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นร่างกายภายนอกหรือภายในก็มีกล้ามเนื้อเป็นองค์ประกอบทั้งสิ้น โดยกล้ามเนื้อนั้นจะมีหน้าที่ยืดและหดตัวเพื่อเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ มนุษย์เราจึงจำเป็นที่จะต้องมีระบบกล้ามเนื้อที่แข็งแรง อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถห้ามความเจ็บป่วยที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งหนึ่งในโรคที่น่ากลัวก็มักจะมาจากโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบกล้ามเนื้อ ซึ่งแต่ละโรคนั้นก็มาจากชนิดของกล้ามเนื้อที่แตกต่างกัน
“ชนิดของกล้ามเนื้อ” มีกี่แบบ และมีอะไรบ้าง
“กล้ามเนื้อ”เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย มีหน้าที่ยืดและหดตัวเพื่อเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย มี 3 ประเภท
1.กล้ามเนื้อลายหรือกล้ามเนื้อยึดกระดูก (skeleton muscle)
เป็นกล้ามเนื้อที่เกาะติดกับโครงกระดูกหรือกล้ามเนื้อลาย เช่น กล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อขา จึงทำหน้าที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยตรง เมื่อนำเซลล์กล้ามเนื้อเหล่านี้มาศึกษาด้วย กล้องจุลทรรศน์จะมองเห็นเป็นแถบลาย เซลล์กล้ามเนื้อนี้มีลักษณะเป็นทรงกระบอกยาว แต่ละเซลล์ มีหลายนิวเคลียส การทำงานของกล้ามเนื้อยึดกระดูกถูกควบคุมโดยระบบประสาทโซมาติก การทำงานของกล้ามเนื้อชนิดนี้ ร่างกายสามารถบังคับได้ซึ่งถือว่าอยู่ในอำนาจจิตใจและประกอบด้วยเนื้อเยื่อเกี่ยวพันโดยมีเส้นเลือดฝอยล้อมรอบซึ่งเป็นตัวนำออกซิเจนมาเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้ เป็นกล้ามเนื้อที่ทำงานตามคำสั่งของสมอง ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ให้ร่างกายเป็นปกติ
ซึ่งกล้ามเนื้อลาย 6 ส่วนใหญ่ๆ ที่มีความสำคัญกับคนเรามากที่สุดได้แก่
-
กล้ามเนื้อใบหน้า เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้ผิวหนัง ทำหน้าที่แสดงความรู้สึก และอาการต่างๆ บนใบหน้า เช่น เสียใจ ตกใจ ดีใจ โกรธ หัวเราะ ยิ้ม ร้องไห้ ฯลฯ
-
กล้ามเนื้อคอ อีกหนึ่งกล้ามเนื้อสำคัญ ทำหน้าที่เอียงคอ ยืดคอ หันหน้า เงยหน้า ก้มหน้า และหมุนคอ ซึ่งปกติแล้วในชีวิตประจำวันของคนเราแทบจะไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อบริเวณนี้ ดังนั้นเพื่อความแข็งแรงบริเวณรอบคอ ควรหมั่นบริหารกล้ามเนื้อคอเป็นประจำ
-
กล้ามเนื้อส่วนลำตัว ประกอบด้วยกล้ามเนื้อส่วนลำตัวด้านหน้าและด้านหลัง กล้ามเนื้อบริเวณนี้ทำหน้าที่เชื่อมต่อกับกระดูกเป็นส่วนใหญ่และทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของร่างกาย
-
กล้ามเนื้อส่วนหัวไหล่และแขน กล้ามเนื้อส่วนหัวไหล่และแขน ช่วยให้เราใช้แขนและหัวไหล่ในการเคลื่อนไหวหยิบจับสิ่งของต่างๆ ตัวอย่างของการทำงานกล้ามเนื้อในส่วนนี้ ได้แก่ ยกไหล่ ยกแขน กางแขน หมุนต้นแขนเข้า-ออกด้านนอกและด้านใน ดึงแขนไปด้านหลัง รวมถึงการบังคับข้อมือ
-
กล้ามเนื้อส่วนมือและนิ้ว กล้ามเนื้อในส่วนนี้เป็นกล้ามเนื้อขนาดเล็กและสั้น ส่วนมากจะเป็นเอ็นของกล้ามเนื้อที่เชื่อมต่อมาจากแขนท่อนล่าง ทำหน้าที่กำและเหยียดมือ
-
กล้ามเนื้อส่วนสะโพกและขา กล้ามเนื้อส่วนสะโพกและขาที่สำคัญ ประกอบด้วย กล้ามเนื้อส่วนสะโพกและก้นกบ กล้ามเนื้อส่วนโคนขา กล้ามเนื้อส่วนปลายขา และกล้ามเนื้อส่วนเท้าช่วยในเรื่องของการเดิน การนั่ง
2.กล้ามเนื้อหัวใจ (cardiac muscle)
เซลล์มีรูปร่างเป็นทรงกระบอก แต่สั้นกว่าเซลล์กล้ามเนื้อยึดกระดูกและเห็นเป็นลายเช่นเดียวกัน แต่ตอนปลายของเซลล์มีการแตกแขนง และเชื่อมโยงติดต่อกับเซลล์ข้างเคียง การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจถูกควบคุมโดยระบบประสาทอัตโนวัติ ดังนั้นร่างกายไม่สามารถบังคับได้ จึงเป็นกล้ามเนื้อที่อยู่นอกอำนาจจิตใจ
3.กล้ามเนื้อเรียบ (smooth muscle)
กล้ามเนื้อเรียบเป็นกล้ามเนื้อที่พบอยู่ตามอวัยวะภายในเช่นผนังกระเพาะอาหาร ผนังลำไส้ ผนังหลอดเลือด และม่านตา เป็นต้น กล้ามเนื้อเหล่านี้ ประกอบด้วยเซลล์ที่มีลักษณะยาว หัวท้ายแหลม แต่ละเซลล์มี 1 นิวเคลียส ไม่มีลายพาดขวาง การทำงานของกล้ามเนื้อเรียบถูกควบคุมโดยระบบประสาทอัตโนมัติ
ชนิดของกล้ามเนื้อที่มักเกิดปัญหามากที่สุด
ส่วนมาก เมื่อเกิดปัญาหาการทำงานของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อลาย จะส่งผลต่อการใช้ชิวิตประจำวัน เช่น เกิดอาการปวด ยกของหนักไม่ได้ เคลื่อนไหวไม่สะดวก เป็นต้น อีกเป็นชนิดที่มีเนื้อเยื่อและเส้นประสาทที่ล้อมรอบมากมายจึงส่งผลต่ออวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ง่ายนั่นเอง
การทำงานของกล้ามเนื้อ
เมื่อสมองสั่งให้ร่างกายเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อจะเกิดการหดตัวและคลายตัว ทำงานประสานเป็นคู่ ๆ พร้อมกัน แต่ตรงข้ามกัน ในขณะที่กล้ามเนื้อมัดหนึ่งหดตัว กล้ามเนื้ออีกมัดหนึ่งจะคลายตัว การทำงานของกล้ามเนื้อในลักษณะนี้ เรียกว่า Antagonistic muscle มัดกล้ามเนื้อไบเซพ (Biceps) อยู่ด้านบน และไตรเซพ (Triceps) อยู่ด้านล่างของแขน
หน้าที่ของกล้ามเนื้อ
1. คงรูปร่างท่าทางของร่างการ 2. ยึดข้อต่อไว้ด้วยกัน 3. ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อทำให้ให้เราเคลื่อนไหวในส่วนที่ต้องการได้ กิจกรรมทุกอย่างที่เราทำอยู่ทุกๆวันนี้เกิดขึ้นได้เพราะร่างกายเราสามารถเปลี่ยนเอาพลังงานที่ได้จากสารอาหารมาเป็นพลังงานกล หรือพลังงานที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว 4. รักษาระดับอุณหภูมิของร่างกายโดยผลิตความร้อนออกมาตามที่ร่างกายต้องการ
การดูแลระบบกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
1. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายแบบแอโรบิคจะช่วยทำให้หัวใจและปอดแข็งแรงขึ้น คุณจะเดิน จะขี่จักรยาน จะว่ายน้ำ หรือจะวิ่ง และการเดินขึ้นบันไดก็สนุกได้เหมือนกันนะ ทั้งการเดิน การวิ่งเหยาะๆ การขี่จักรยาน การว่ายน้ำ หรือการเดินขึ้นบันได เป็นแค่ตัวอย่างเล็กน้อยของการออกกำลังกายแบบแอโรบิค การออกกำลังกายที่ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและมีขนาดใหญ่ขึ้นนั้นเรียกว่า การออกกำลังกายแบบ แอนแอโรบิค (Anaerobics Exercise) ทั้งการเสริมสร้างความแข็งแกร่ง การยกน้ำหนัก หรือการวิ่งระยะสั้น เมื่อนำไปรวมกับการออกกำลังกายแบบอื่นแล้วก็สามารถทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นเช่นกัน
2. โภชนาการที่เหมาะสม
การรับประทานผัก ธัญพืช และผลไม้อร่อยๆ รวมถึงการดื่มน้ำมากๆ ลดความเครียด ก็ช่วยได้เหมือนกัน ชื่อและตำแหน่งของกล้ามเนื้อในร่างกาย ท้ายที่สุด สิ่งสำคัญในการที่จะทำให้ระบบของกล้ามเนื้อของเรามีสุขภาพที่ดีคือ การดูแล ทั้งออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ การออกกำลังกายบ่อย ๆ ช่วยให้เส้นใยกล้ามเนื้อขยายขึ้น กล้ามเนื้อจะเจริญเติบโตมากขึ้น การออกกำลังกายจะช่วยให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อมากขึ้น และกล้ามเนื้อขยายขนาดเพิ่มขึ้น กล้ามเนื้อยิ่งแข็งแรง แต่ถ้ากล้ามเนื้อไม่ได้ใช้งานหรือมีอายุมากขึ้นจะทำให้เส้นใยหดตัวหรือฝ่อลง กล้ามเนื้อจะค่อย ๆ เล็กลงและลีบไปในที่สุด การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ พยายามผ่อนคลายความเครียด ทำแบบนี้เป็นประจำ เท่านี้ก็จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงได้ด้วยนั่นเอง
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- นั่งนาน ปวดหลัง แก้ได้ไม่ยาก
- ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
- ปวดหัว มึนหัว ปวดกระบอกตา คล้ายไมเกรน