ปวดแขนจี๊ดๆ เกิดจาก อะไร เกิดจากกล้ามเนื้อหรือกระดูกกันแน่?
ปวดแขนจี๊ดๆ เกิดจาก หลายสาเหตุที่อาจจะไม่คาดคิด ตั้งแต่การใช้งานกล้ามเนื้อเกินไปจนถึงปัญหาจากกระดูกหรือเส้นประสาทที่อาจส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง หากไม่สามารถหาสาเหตุได้อย่างชัดเจน อาการเหล่านี้อาจกลายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น การวิเคราะห์สาเหตุและการเลือกใช้การรักษาที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ และเพื่อให้ทุกคนได้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของภาวะอาการนี้ ในบทความนี้ Newton Em Clinic มีคำตอบมาฝาก
ปวดแขนจี๊ดๆ เกิดจาก อะไรได้บ้าง ควรรักษาด้วยวิธีไหนจึงจะไม่เป็นซ้ำ?
อาการ “ปวดแขนจี๊ด ๆ” หรือ อาการปวดแปล๊บ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งบางครั้งอาจเป็นอาการของการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทได้ โดยอาการปวดดังกล่าวมักจะรู้สึกแปล๊บๆ หรือเจ็บจี๊ดๆ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่อาจเกิดขึ้นขณะเคลื่อนไหวแขน หรือแม้แต่ในขณะพักผ่อนก็ได้ ความรู้สึกนี้อาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น การใช้งานแขนมากเกินไป การบาดเจ็บจากการทำกิจกรรมบางอย่าง หรืออาจเกี่ยวข้องกับโรคที่มีผลต่อระบบกล้ามเนื้อหรือระบบประสาท การทำความเข้าใจถึงสาเหตุและอาการที่เกิดขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันไม่ให้อาการเหล่านี้ลุกลามหรือกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่รุนแรงขึ้นในอนาคต
ในบทความนี้เราจะมาสำรวจสาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการปวดแขนจี๊ด ๆ รวมถึงอาการที่ควรระวังและวิธีการรักษาที่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพของผู้ประสบปัญหาให้ดียิ่งขึ้นไปพร้อม ๆ กัน
ทำความเข้าใจ สาเหตุของอาการปวดแขนจี๊ด ๆ มีอะไรบ้าง อาการเป็นยังไง ใครสุ่มเสี่ยงบ้าง?
“อาการปวดแขนจี๊ดๆ” เป็นหนึ่งในอาการที่หลายคนอาจเคยประสบ แต่เมื่อเกิดขึ้นบ่อยๆ หรือรุนแรง ก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม การทำความเข้าใจสาเหตุของอาการนี้ และการรู้จักอาการที่มักเกิดร่วมกับการปวด จะช่วยให้เราสามารถจัดการและรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะทราบแนวทางการรักษา เรามาทำความเข้าใจข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับภาวะนี้กันก่อนว่ามีอะไรบ้าง เพื่อให้สามารถรู้แนวทางการรักษาและป้องกันได้ถูกต้อง
สาเหตุของการปวดแขนจี๊ด ๆ
- การบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหว: การยืดหรือดึงกล้ามเนื้อแขนหรือข้อมืออย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดการตึงหรือฉีกขาดของกล้ามเนื้อ ซึ่งทำให้รู้สึกปวดจี๊ดๆ
- การกดทับเส้นประสาท: เช่น โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน (Herniated disc) ที่กดทับเส้นประสาท ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดจี๊ดๆ หรือชาที่แขน
- กล้ามเนื้ออักเสบ: เช่น อาการ Tendinitis (อักเสบของเอ็น) หรือ Bursitis (อักเสบของถุงน้ำหล่อลื่น) ที่ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวด
- โรคทางประสาท: เช่น โรคไซอาติกา (Sciatica) หรืออาการเส้นประสาทอักเสบ ซึ่งทำให้มีอาการปวดจี๊ดๆ ไปยังแขน
อาการที่มักเกิดร่วมกับปวดแขนจี๊ด ๆ
- ปวดแบบแปล๊บหรือจี๊ดๆ ในบริเวณแขนหรือข้อมือ
- ความรู้สึกชาหรือเสียวแปล๊บที่แขน
- ปวดที่มักจะรุนแรงขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวแขนหรือมีการยืดกล้ามเนื้อ
- อาจมีอาการปวดต่อเนื่องหรือเป็นพักๆ ขึ้นอยู่กับสาเหตุ
บุคคลที่มีความเสี่ยงจะเกิดอาการนี้ มีใครบ้าง?
- ผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้แขนมาก เช่น ช่างมือ, นักกีฬา, ผู้ที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
- ผู้ที่มีโรคข้อเข่าเสื่อม, หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือโรคเส้นประสาท เช่น โรคไซอาติกา หรืออาการเส้นประสาทอักเสบ
- ผู้ที่ทำกิจกรรมที่ต้องยืดหรือบิดแขนบ่อยๆ เช่น กีฬาแอโรบิกที่มีการยืดแขนสูง หรือการยกน้ำหนักหนักเกินไป
อย่างไรก็ตาม หากอาการปวดแขนจี๊ดๆ ยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการที่รุนแรงขึ้น เช่น ปวดตลอดเวลา หรือเกิดความรู้สึกชาหรือเสียวแปล๊บไปทั่วแขน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ อาจมีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับการกดทับเส้นประสาท หรือการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหรือข้อต่อ ซึ่งต้องการการรักษาที่เหมาะสม เช่น การทำกายภาพบำบัด การรับการรักษาด้วยยา หรือในบางกรณีอาจต้องใช้การรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์อื่น ๆ เช่น การผ่าตัด ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการที่พบ การวินิจฉัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันอาการที่อาจลุกลามหรือเป็นเรื้อรังในอนาคต
ไขข้อสงสัย! อาการปวดแขนจี๊ด ๆ แบบนี้ เกิดจากความผิดปกติของกระดูกหรือกล้ามเนื้อกันแน่?
อาการปวดแขนจี๊ดๆ สามารถเกิดจากทั้ง กระดูก และ กล้ามเนื้อ ได้ ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เกี่ยวข้อง ดังนี้:
1. ความผิดปกติของกระดูก:
- หมอนรองกระดูกเคลื่อน (Herniated Disc): หมอนรองกระดูกที่กดทับเส้นประสาทในกระดูกสันหลังสามารถทำให้เกิดอาการปวดจี๊ด ๆ ลงไปที่แขน ซึ่งอาการนี้มักเกิดจากการกดทับเส้นประสาทที่เชื่อมโยงไปยังแขนหรือมือ
- โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis): การสึกหรอของข้อกระดูก เช่น ข้อไหล่หรือข้อมือ อาจทำให้เกิดอาการปวดจี๊ด ๆ โดยเฉพาะเมื่อขยับข้อมือหรือข้อไหล่
- กระดูกหักหรือร้าว: การบาดเจ็บที่กระดูก เช่น กระดูกหักหรือร้าวจากการตกหรืออุบัติเหตุ อาจทำให้เกิดอาการปวดจี๊ด ๆ ที่แขนตามมาจากการบาดเจ็บที่กระดูกหรือข้อต่อ
2. ความผิดปกติของกล้ามเนื้อ:
- การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหรือเอ็น (Tendinitis, Muscle Strain): กล้ามเนื้อที่ถูกยืดหรือดึงมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการปวดจี๊ดๆ ที่บริเวณแขน เช่น การยกของหนัก หรือการทำกิจกรรมซ้ำๆ ที่ใช้แขนมากเกินไป
- โรคกล้ามเนื้ออักเสบ (Bursitis, Tendonitis): กล้ามเนื้อหรือเอ็นที่อักเสบจะทำให้เกิดอาการปวดจี๊ดๆ โดยเฉพาะเวลาขยับแขนในท่าที่ตึง
- อาการกล้ามเนื้อเกร็ง (Muscle Spasms): การเกร็งของกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นในลักษณะกระตุกหรือบีบตัว อาจทำให้เกิดอาการปวดจี๊ดๆ ในบางท่าทางหรือขณะทำกิจกรรมบางอย่าง
ทั้งนี้ อาการปวดแขนจี๊ด ๆ อาจเกิดจากทั้ง กระดูก และ กล้ามเนื้อ ขึ้นอยู่กับลักษณะของอาการและบริเวณที่ปวด หากอาการปวดจี๊ดๆ ยังคงเกิดขึ้นบ่อยหรือไม่ทุเลาลง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
อาการปวดแขนจี๊ดๆ รักษาอย่างไร มีวิธีใดสามารถรักษาได้บ้าง?
อาการปวดแขนจี๊ดๆ สามารถรักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ ดังนี้…
1. การรักษาด้วยวิธีไม่ใช้ยา
- การประคบเย็นหรือร้อน: หากเป็นอาการปวดจากการอักเสบหรือบาดเจ็บใหม่ การประคบเย็น (ใช้น้ำแข็งห่อผ้าขนหนู) ช่วยลดการอักเสบและบวม หรือ หากอาการปวดเรื้อรังหรือกล้ามเนื้อเกร็ง การประคบร้อน (ใช้ถุงน้ำร้อนหรือแผ่นแปะร้อน) ช่วยคลายกล้ามเนื้อและลดอาการปวด
- การยืดกล้ามเนื้อ (Stretching): การยืดกล้ามเนื้อเบาๆ และทำการคลายกล้ามเนื้อช่วยลดการเกร็งและปวดในกล้ามเนื้อได้
- การทำกายภาพบำบัด: การไปพบหมอที่มีความเชี่ยวชาญในการทำกายภาพบำบัดสามารถช่วยลดอาการปวดได้ โดยการออกกำลังกายหรือการฝึกท่าทางที่ถูกต้อง
- การพักแขน: หากปวดเนื่องจากการใช้งานหนักหรือยืดเยื้อ การพักผ่อนจะช่วยให้กล้ามเนื้อหรือข้อต่อฟื้นตัว
2. การรักษาด้วยยา
- ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs): เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือ พาราเซตามอล (Paracetamol) สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ
- ยาคลายกล้ามเนื้อ (Muscle Relaxants): ในกรณีที่อาการปวดเกิดจากกล้ามเนื้อเกร็งหรือเคล็ดกล้ามเนื้อ แพทย์อาจจ่ายยาคลายกล้ามเนื้อเพื่อบรรเทาอาการ
- ยาสเตียรอยด์ (Steroid Injections): หากการอักเสบในข้อหรือเส้นเอ็นรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาฉีดยาสเตียรอยด์ในบริเวณที่มีปัญหาเพื่อลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวด
3. การรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์
- การรักษาด้วยการฉีดยา: ในกรณีที่อาการเกิดจากการกดทับเส้นประสาท (เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน) แพทย์อาจพิจารณาการฉีดยาเข้าในพื้นที่ที่มีการอักเสบเพื่อบรรเทาอาการ
- การผ่าตัด: หากอาการเกิดจากปัญหาที่รุนแรง เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือการบาดเจ็บที่รุนแรง ซึ่งไม่ได้รับการตอบสนองจากการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ อาจต้องใช้การผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหา
4. การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ
- การใช้สมุนไพรหรือวิธีธรรมชาติ: การใช้สมุนไพร เช่น ขิง หรือขมิ้นในการลดการอักเสบ สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ในบางกรณี
5. การป้องกัน
- การปรับท่าทาง: การระวังท่าทางที่ถูกต้องในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การยกของ หรือการทำงานที่ต้องใช้แขนอย่างหนัก
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การฝึกกล้ามเนื้อแขนและข้อมือจะช่วยเสริมความแข็งแรงและป้องกันการบาดเจ็บ
- การปรับกิจวัตรประจำวัน: ลดการทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดการใช้งานหนักเกินไป โดยการพักหรือเปลี่ยนท่าทางเป็นระยะ
อย่างไรก็ดี การรักษาอาการปวดแขนจี๊ด ๆ ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ โดยวิธีที่ใช้สามารถตั้งแต่การบรรเทาอาการเบื้องต้นด้วยการประคบเย็น/ร้อน การยืดกล้ามเนื้อ การใช้ยา ไปจนถึงการรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ เช่น การฉีดยาหรือการผ่าตัด สำหรับอาการที่รุนแรงหรือเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- นั่งนาน ปวดหลัง แก้ได้ไม่ยาก
- ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
- ปวดหัว มึนหัว ปวดกระบอกตา คล้ายไมเกรน