กายภาพบําบัดแก้ปวดหลัง รักษาอย่างไรให้หายขาด?
กายภาพบําบัดแก้ปวดหลัง กลายเป็นอีกหนึ่งบริการที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากอาการปวดหลังเป็นอาการที่คนในยุคปัจจุบันเป็นกันมากเพราะมาจากพฤติกรรมที่ต้องนั่งทำงานนาน ๆ หรือนั่งผิดท่า จึงทำให้เกิดอาการเจ็บตึง ปวด บริเวณหลังนั่นเอง อย่างไรก็ตาม การปวดหลังเช่นนี้สามารถรักษาได้ด้วยการทำกายภาพบำบัด ซึ่งจะรักษาได้ด้วยวิธีการใดบ้างนั้น ในบทความนี้ Newton Em มีคำตอบมากฝาก
กายภาพบําบัดแก้ปวดหลัง คืออะไร สามารถรักษาในการทำกายภาพบำบัดด้วยวิธีใดบ้าง?
อาการปวดหลัง นั้นสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในวัยทำงานที่เรียกได้ว่าเป็นอาการยอดฮิตเลยก็ว่าได้ เพราะปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ด้วยอาการดังกล่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการนั่งทำงานที่ไม่ถูกวิธี ส่งผลให้มีอาการปวด เมื่อย ตึงบริเวณหลัง คอ บ่า และไหล่ตามมาด้วยนั่นเอง
สาเหตุของอาการปวดหลัง
สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น การทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน การอยู่ในท่าทาง อิริยาบถ การเคลื่อนไหวร่างกาย และการใช้งานหลังที่ไม่เหมาะสมเป็นระยะเวลานาน (เช่น อาการปวดหลังแบบออฟฟิศซินโดรมในคนที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์ด้วยท่านั่งหลังงอ ห่อไหล่ และก้มคอนาน ๆ หรือ งานที่ต้องยกของหนักโดยใช้การก้มหลัง) การตึงอักเสบของกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นบริเวณหลังและโครงสร้างโดยรอบ การบาดเจ็บบริเวณหลังจากอุบัติเหตุหรือการเล่นกีฬา หรือพยาธิสภาพของโครงสร้างกระดูกสันหลังเอง ทั้งปัญหาของหมอนรองกระดูก ปัญหาของกระดูกสันหลังและเส้นประสาท ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกายและการดำเนินชีวิตประจำวันได้ ผู้ที่ปวดหลังจึงจำเป็นต้องมีการทำกายภาพบำบัดในกรณีที่เกิดปัญหาเรื้อรังขึ้น
อาการปวดหลังแบบไหนบ้างที่ควรทำกายภาพบำบัด?
สามารถจำแนกออกได้หลายอาการและภาวะด้วยกัน เช่น
กระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท
เมื่อกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท จะทำให้มีอาการปวดร้าวลงขา ขาชาหรือเท้าชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง และหากเป็นในระดับรุนแรง อาจส่งผลให้มีปัญหาในการขับถ่ายอุจจาระหรือการปัสสาวะ โดยอาการปวดหลังบริเวณช่วงเอวส่วนล่าง มักเป็นมากขณะก้ม หากมีอาการดังกล่าวควรปรึกษานักกายภาพบำบัดหรือผู้เชี่ยวชาญทันที
หมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท
ภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท เกิดจากการเสื่อมสภาพของหมอนรองกระดูกสันหลัง หรือการใช้งานในท่าที่ผิด เช่น การก้มหลังยกของหนัก ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นไปกดทับเส้นประสาท ซึ่งสามารถสังเกตได้จากอาการปวดหลัง ปวดเอว แล้วปวดลามไปจนถึงส่วนขา อาจมีอาการชาขาร่วมด้วย
มีพังผืดและหินปูนเกิดขึ้นไปกดทับเส้นประสาท
ถึงจะไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้สำหรับพังผืดหรือหินปูนที่จะไปทับกดเส้นประสาท ร่วมกับภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อม ถ้าหากเป็นหนักมากก็อาจไปกดทับรากประสาทหรือไขสันหลัง จนทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เต็มที่
ทั้งนี้ หากไม่แน่ใจว่าอาการปวดหลังที่เป็นอยู่นั้นเกิดจากความผิดปกติของกระดูกสันหลังหรือไม่ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการปวดหลัง เพื่อทำให้ได้รับการรักษาอาการปวดหลังหรือกายภาพบำบัดอย่างถูกต้อง เหมาะสมและรวดเร็ว
การรักษาอาการปวดหลังด้วยการทำ “กายภาพบำบัด”
เป้าหมายของการกายภาพบำบัดรักษาอาการปวดหลัง คือ เพื่อบรรเทาอาการปวด และให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหรือใกล้เคียงปกติที่สุด โดยวิธีการรักษาอาการปวดหลังมีหลายวิธี ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การทำกายภาพบำบัด นั่นเอง โดยการรักษาด้วยวิธีนี้จะพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยมุ่งเน้นการรักษาที่ต้นเหตุของอาการ รวมถึงบรรเทาอาการเจ็บปวดให้เหลือน้อยที่สุด
การทำกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการปวดหลัง มีวิธีใดบ้าง?
เป็นวิธีรักษาอาการปวดหลังที่มีความสำคัญและใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลัง การทำกายภาพบำบัดเพื่อลดอาการปวดมีหลายประเภท เช่น
- การใช้ความร้อน โดยการประคบร้อน
- อัลตราซาวด์
- การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า
- กายภาพบำบัดด้วยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังรวมไปถึงการปรับปรุงท่าทางการใช้งานหลังของผู้ป่วยในชีวิตประจำวัน หลังจากอาการปวดดีขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญที่ควรฝึกตามมา คือ การบริหารและกายภาพบำบัดด้วยตัวเองเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นโดยการนวด ดัด ยืด และฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง สะโพก และหน้าท้อง ด้วยวิธีการออกกำลังกายของกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน เพื่อช่วยป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
อย่างไรก็ตาม การทำกายภาพบำบัดรักษาปวดหลัง จะช่วยรักษาอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี เมื่อนักกายภาพบำบัดตรวจร่างกายและหาสาเหตุของอาการปวดหลังได้แล้ว ก็จะเริ่มต้นการรักษาโดยเน้นบรรเทาอาการเจ็บปวดที่หลัง คืนความสมดุลให้แก่ร่างกาย ฟื้นฟูสุขภาพบริเวณหลังให้ดีขึ้น เพื่อให้ประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายกลับมาเป็นปกติได้ดังเดิม
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วิดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวิดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- นั่งนาน ปวดหลัง แก้ได้ไม่ยาก
- ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
- ปวดหัว มึนหัว ปวดกระบอกตา คล้ายไมเกรน