กายภาพบําบัด คลายเครียด การรักษาที่คนยุคนี้ต้องการ!!
“กายภาพบําบัด คลายเครียด” อีกหนึ่งหนทางที่ได้รับความนิยมในการช่วยบรรเทาและผ่อนคลายภาวะเครียดที่คนในยุคนี้ต้องเจอ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าในช่วง 4-5 ปีให้หลังมานี้ คน Gen ใหม่ต้องพบกับความเครียดมากมาย ไม่ว่าจะเกิดจากตนเองหรือสภาพแวดล้อมที่เข้ามากดดัน ทำให้เกิดภาวะเครียดได้ง่ายและก่อให้เกิดโรคซึมเศร้าได้ในที่สุด ดังนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่คนในยุคนี้จะหา Treatment เพื่อง่าย ๆ ในการป้องกันไม่ให้ตนเองเข้าสู่สภาวะโรคดังกล่าวนั่นเอง
“กายภาพบําบัด คลายเครียด” จำเป็นมั้ย ภาวะที่คนยุคใหม่ต้องได้รับการรักษา?
เชื่อว่าการประสบปัญหา “ภาวะเครียด” เป็นสิ่งที่พบเยอะในวัยทำงาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศหรือมีธุรกิจส่วนตัวก็ตาม ปัญหาด้านความเครียดนั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน อย่างไรก็ตาม ความเครียด นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะยังมีปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ ตามมาได้อีก เช่น การรับประทานอาหารได้น้อยลง การพักผ่อนที่ไม่มีคุณภาพ หรืออารมณ์ที่แปรปรวนอยู่บ่อย ๆ ดังนั้น การทำกายภาพบำบัดจึงเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจในการแก้ไขปัญหาความเครียดในระยะยาว
ผลกระทบจากความเครียดมีอะไรบ้าง
ความเครียดมิได้ส่งผลต่อจิตใจและร่างกายเท่านั่น แต่ความเครียดยังส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ลักษณะการหายใจจะยิ่งสั้นและตื้น หายใจไม่อิ่ม ประกอบกับพฤติกรรมการนั่งทำงานไม่ถูกสุขลักษณะ ชอบนั่งทำงานในลักษณะศีรษะยื่นไปข้างหน้า หลังค่อม ห่อไหล่ ทำให้การหายใจไม่ทั่วท้อง ปอดขยายไม่เต็มที่จึงรู้สึกปวดตื้อแน่นหน้าอก บางคนอาจจะมีอาการปวดร้าวขึ้นศีรษะ ขมับ กระบอกตา เวียนศีรษะ หรือปวดร้าวไปที่หัวไหล่ ลงแขน บางรายมีชานิ้วมือร่วมด้วย หากไม่จัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้น มันอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในด้านอื่นตามมา เช่น ภาวะความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองได้อีกด้วย
ไขข้อสงสัย! การทำกายภาพบำบัดแก้ไขปัญหาความเครียดได้อย่างไร?
ต้องบอกก่อนว่า “ความเครียด” ไม่ได้ส่งผลต่อจิตใจและร่างกายเท่านั่น แต่ยังส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจอีกด้วย ทำให้การหายใจของผู้ประสบปัญหานั้นมีระยะที่สั้นลง หรือที่เรารู้จักกันในอาการหายใจไม่อิ่ม รวมถึงภาวะเครียดในผู้ประกอบอาชีพพนักงานออฟฟิศที่พฤติกรรมเสี่ยง เช่น การนั่งผิดท่า นั่งนาน ๆ โดยไม่ได้มีการขยับร่างกาย ก็ยิ่งส่งผลให้มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ บางคนอาจจะมีอาการปวดร้าวขึ้นศีรษะ ขมับ กระบอกตา เวียนศีรษะ ซึ่งเป็น “อาการออฟฟิศซินโดรม” อีกด้วย
จากปัญหาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการส่งผลต่อการหายใจหรือการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ก็สามารถแก้ไขและบรรเทาปัญหาได้ด้วยการทำกายภาพบำบัดทั้งสิ้น ซึ่งการทำกายภาพบำบัดนั้นเป็นแนวทางการแก้ไขที่ช่วยให้อาการเครียดถูกบรรเทาลงในระยะยาวเพียงแค่ผู้ประสบปัญหาเข้ารับการดูแลจากนักกายภาพบำบัดหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะช่วยได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3 วิธีทางกายภาพบำบัดช่วยบรรเทาอาการเครียดให้ดีขึ้น!!
ต้องบอกก่อนว่าการรักษาด้วยกายภาพบำบัดนั้นมีหลายวิธีซึ่งจะถูกนำมาใช้ โดยสำหรับภาวะเครียดนั้น สามารถใช้กายภาพบำบัด 3 วิธีนี้ได้ ประกอบด้วย…
1.กายภาพบำบัดการประคบ
ส่วนใหญ่ต้องใช้เป็นการประคบอุ่น / ประคบร้อน โดยเฉพาะในเคสที่มีอาการปวดคอ บ่า หรือสะบัก ให้ประคบอุ่นบริเวณที่ปวดประมาณ 20 นาที ก็จะช่วยให้สบายตัวมากขึ้น กล้ามเนื้อคลายความตึง ลดอาการปวดได้เช่นเดียวกัน
2.กายภาพบำบัดปรับพฤติกรรมเสี่ยง
คุณเป็นคนที่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องนานเกิน 1 ชั่วโมง ลองปรับเปลี่ยนด้วยหยุดพักสายตาทุก ๆ 15 นาที เพื่อหาจุดที่สบายต่อการมองเห็นมากที่สุด รวมทั้งจัดท่านั่งให้เหมาะสม ไม่นั่งห่อไหล่ หรือ ไม่ยื่นคางเพื่อจ้องจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ซึ่งหากลองปรับได้อย่างสม่ำเสมอจะทำให้อาการปวดเมื่อกล้ามเนื้อเรื้อรังลดลงได้
3.กายภาพบำบัดฝึกสติและควบคุมการหายใจ
ให้เริ่มต้นที่การฝึกหายใจเข้าออกช้า ๆ ลึก ๆ โดยใช้กล้ามเนื้อกระบังลมจะช่วยให้สามารถสูดอากาศเข้าปอดได้มากขึ้นและควบคุมให้หัวใจเต้นช้าลง จะช่วยให้สมองเราแจ่มใสขึ้นเพราะได้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองมากขึ้นนั่นเอง โดยทำซ้ำประมาณ 3 – 5 ครั้งต่อรอบ ฝึก 3 – 5 รอบต่อวันก็จะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นตามลำดับ
ท่ากายบริหารสำหรับส่วนต่าง ๆ เพื่อบรรเทาอาการเครียดเมื่อเกิดอาการ
แน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอคือการต้องรับมือกับความเครียดในแต่ละวัน ดังนั้น ท่ากายบริหาร
ผ่อนคลายกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่หลัง
- คอ ให้ก้มหน้าให้คางจดคอแล้วคลาย เงยหน้าจนสุดแล้วคลาย
- อก ไหล่ และหลัง โดยหายใจเข้าลึกๆ กลั้นไว้แล้วคลาย ยกไหล่สูงแล้วคลาย
- ควรทำทำซ้ำประมาณ 3 – 5 ครั้งต่อรอบ ฝึก 3 – 5 รอบต่อวัน จะรู้สึกสบายขึ้น
ผ่อนคลายกล้ามเนื้อบนใบหน้า
- หน้าผาก เลิกคิ้วสูงแล้วคลาย ขมวดคิ้วแล้วคลาย
- ตา แก้ม จมูก หลับตาแน่น ย่นจมูกแล้วคลาย
- ขากรรไกร ลิ้น ริมฝีปาก กัดฟัน ใช้ลิ้นดันเพดานปากแล้วคลาย เม้มปากแน่นแล้วคลาย
ผ่อนคลายกล้ามเนื้อแขนและมือ
- กำมือให้แน่น เกร็งไว้ และคลายออก
- กระดกข้อมือขึ้น เกร็งไว้ และคลายออก
- เหยียดข้อศอก เกร็งไว้ และคลายออก
- แบะหัวไหล่ลงพื้น เกร็งไว้ และคลายออก
อย่างไรก็ตาม วิธีกายภาพบำบัดต่าง ๆ ดังกล่าว เป็นการทำกายภาพแบบง่าย ๆ ที่สามารถเริ่มได้ด้วยตนเอง หากทำแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษานักกายภาพบำบัด เพื่อตรวจประเมิน รักษาด้วยวิธีการทางกายภาพบำบัดที่เหมาะสมกับตนเอง ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือไม่ควรลืมหาต้นตอของความเครียดที่แท้จริงเพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดด้วย เพราะหากปล่อยไว้นานอาจทำให้เกิดอาการเครียดเรื้อรังได้และอาจรักษาได้ยากขึ้นด้วยนั่นเอง
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วิดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวิดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- นั่งนาน ปวดหลัง แก้ได้ไม่ยาก
- ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
- ปวดหัว มึนหัว ปวดกระบอกตา คล้ายไมเกรน