ปวดหัว ความดันสูง วิธีแก้คืออะไร เป็นแล้วสามารถหายขาดได้หรือไม่?
ปวดหัว ความดันสูง วิธีแก้ ที่ถูกต้อง ต้องทำอย่างไร? หลาย ๆ คนอาจไม่เคยทราบว่าภาวะความดันนั้นสามารถทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหัว มึนงง และอ่อนเพลียได้ ซึ่งมักเกิดจากที่ความดันโลหิตนั้นอยู่ในระดับที่สูงมากเกินไปนั้นเอง ในหลาย ๆ ครั้งที่ภาวะอาการนี้มักถูกปล่อยปละละเลยจากตัวคนไข้เองเนื่องจากช่วงแรกอาการมักจะยังไม่ปรากฏให้เห็นชัดเจนและกว่าจะรู้ตัวก็สายไปเพราะ “ความดัน” ภาวะที่สูงผิดปกตินั้นสามารถนำมาซึ่งโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ ดังนั้น ผู้อ่านจึงควรรักษาอาการปวดหัวตั้งแต่แรกเริ่มเพื่อไม่ให้โรคแทรกซ้อนดังกล่าวเกิดขึ้นได้
ปวดหัว ความดันสูง วิธีแก้มีอะไรบ้าง หากไม่รักษาจะเกิดผลอย่างไร?
จากที่กล่าวไปข้างต้นว่า ผู้ป่วยหลายคนมักไม่รู้ตัวว่าตนเองนั้นกำลังประสบปัญหาอาการปวดหัวจากภาวะความดันสูง ซึ่งนั่นเป็นเพราะการปวดหัวนั้นสามารถแบ่งออกได้หลายแบบจนอาจทำให้หลายคนสับสน ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาทั่วโลกมีผู้ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงจำนวนประมาณกึ่งหนึ่งของประชากรทั่วโลก แม้ว่าโรคความดันโลหิตสูงนี้ อาจฟังดูแล้วไม่ได้ให้ความรู้สึกรุนแรงเท่ากับโรคมะเร็ง แต่ทว่าโรคนี้กลับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะต่าง ๆ ตามมาได้ ดังนั้นเราจะมาดูกันว่าเราจะสามารถแก้ไขอาการปวดหัวเช่นนี้ได้อย่างไรบ้าง
ปวดหัวจากความดัน เกิดจาก…
อาการปวดหัวที่เกิดจากความดัน เป็นผลเกิดมาจากภาวะที่ความดันโลหิตอยู่ในระดับมากกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป และส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ
ลักษณะอาการ
ผู้มีความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการอะไร แต่ในรายที่มีความดันโลหิตสูงมากอาจมีอาการดังนี้
- ปวดท้ายทอย ตึงที่ต้นคอ
- เวียนศีรษะ
- ปวดศีรษะตุ้บ ๆ ปวดศีรษะเฉียบพลัน
- ใจสั่น ชีพจรเต้นไม่เป็นจังหวะ
- นอนไม่หลับ
- มือเท้าชา ตาพร่ามัว
- มีภาวะอัมพาต หรือเสียชีวิตฉับพลัน
โรคแทรกซ้อนที่สามารถเกิดขึ้นได้ มีอะไรบ้าง?
ภาวะความดันโลหิตสูงที่เป็นมานาน และไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เกิดการถูกทำลายของอวัยวะสำคัญต่าง ๆ ในร่างกายได้ เช่น หัวใจ สมอง ไต หลอดเลือด และตา เป็นต้น เพราะความดันโลหิตที่สูงที่เป็นอยู่นาน จะทำให้ผนังหลอดเลือดแดงหนาตัวขึ้น และรูเล็กลง ทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ลดลง ส่งผลให้อวัยวะเหล่านี้ทำงานได้ไม่เป็นปกติ และหากทำลายรุนแรงมากพอ อาจทำให้เสียชีวิตได้
อาการนี้รักษาให้หายขาดได้หรือไม่?
โรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่รักษาไม่หายขาด จึงจำเป็นต้องรักษาและปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง เพื่อควบคุมความดันโลหิต ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ลดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดตามมา สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติ
การรักษาเบื้องต้น
เมื่ออ่านมาถึงหัวข้อนี้ ทุกคนคงทราบกันแล้วว่าอาการปวดหัวจากความดันโลหิตสูง จะมีอาการปวดที่ด้านหลังท้ายทอยเป็นส่วนใหญ่ หรือปวดรอบเบ้าตา รอบศีรษะก็ได้ ปวดแบบตุ้บ ๆ (Throbbing pain) การรักษาส่วนใหญ่ก็ใช้การทานยาแก้ปวดลดไข้ ทั่วไปได้ หรือ ถ้าไม่หาย ต้องทานยาลดความเครียด คลายกังวล ยาประเภทกล่อมประสาทอย่างอ่อน ๆ ยาให้นอนหลับร่วมด้วย เพราะถ้าความดันโลหิต และความเครียด ที่เป็นสาเหตุให้ปวดหัวไม่ลดลง อาการปวดหัวก็ไม่หาย ดังนั้นต้องทานยาลดความดันด้วย ให้ลงมาใกล้ปกติที่สุด หรืออย่างน้อยต้องมีค่าความดัน 140/90 จะปลอดภัยกว่า นอนพักผ่อนมาก ๆ ลดกิจกรรมที่ทำให้เครียด คิดมาก งดทานเหล้าบุหรี่ และทำงานหนักหักโหม เป็นต้น
ท่านวดศีรษะ บรรเทาอาการปวด
ผู้ป่วยสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้
กดจุดตรงกลางระหว่างคิ้ว
จุดนี้ ชาวจีนเชื่อว่าเป็นจุดหยินหยาง หรือจุดสมดุลของร่างกาย เมื่อกดนวดแล้วจะเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยเพิ่มความสมดุลทางด้านร่างกาย วิธีการก็ไม่ยุ่งยากแค่ใช้นิ้วชี้หรือนิ้วที่ถนัดกดนวดด้วยแรงปานกลาง บริเวณหน้าผาก ตรงกลางระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง นอกจากจะเป็นการกดจุดแก้ปวดหัวแล้ว ว่ากันว่าช่วยให้ความดันโลหิตไหลเวียนดีขึ้นอีกด้วย
กดจุดใต้คิ้วทั้งสองข้าง
บริเวณใต้คิ้วหรือส่วนต้นของโครงจมูก เป็นอีกหนึ่งจุดที่ช่วยในการ ‘กดจุดแก้ปวดหัว’ ได้ดี การกดให้ใช้การกดนวดวนเบา ๆ สัก 1 นาที ช่วยในการผ่อนคลายอาการแข็งตึงของใบหน้า ทำให้หายใจสะดวก โล่งจมูก สามารถทำได้บ่อย ๆ หรือถือเป็นอีกหนึ่งอิริยาบถที่เราเปลี่ยนท่าทางขณะนั่งทำงานนาน ๆ ก็ได้
กดจุดบริเวณบ่า แก้อาการปวดหัว
ความเครียดจากการทำงาน ทำให้บ่าไหล่ตึง และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณรู้สึกอ่อนล้าจนปวดหัว ลองใช้ปลายนิ้วมือขวาบีบไหล่ซ้ายไล่จากบ่าเข้าหาท้ายทอย กดนวดให้รู้สึกผ่อนคลายคุณก็จะสามารถบรรเทาอาการปวดหัว และความอ่อนล้าจากการทำงานหนักได้ดี
อย่างไรก็ดี การกดจุดเป็นการช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย ช่วยลดความตึงเครียดและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เมื่อกดจุดในท่าที่ถูกต้องจึงช่วยลดอาการปวดหัวที่เกิดจากการทำงานได้ดี แต่อาจจะให้ผลช้าสักนิดนึง และอาจจะต้องใช้เรี่ยวแรงในการกดนวด รวมถึงใช้เวลาด้วยเช่นกัน
ท้ายที่สุด สิ่งสำคัญของการดูแลตนเองไม่ให้เกิดภาวะนี้ขึ้น คือ ต้องคอยสังเกตตนเองอยู่เสมอ ไม่ว่าอาการจะรุนแรงน้อยหรือมากแค่ไหนก็ตาม ซึ่งหากคนไข้ลองทำการรักษาเบื้องต้นแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรรีบเข้าพบแพทย์โดยทันที ไม่ควรปล่อยหรือละเลยจนสายไป เพราะคงไม่มีใครที่อยากให้เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นอย่างแน่นอน
FAQ คำถามที่พบบ่อย
ปวดหัว ความดันสูง เกิดจากอะไร
อาการปวดหัวที่เกิดจากความดัน เป็นผลเกิดมาจากภาวะที่ความดันโลหิตอยู่ในระดับมากกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป และส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ ร่วมด้วย
ความดันสูงจะปวดหัวตรงไหน
มักปวดบริเวณท้ายทอย และมีอาการตึงที่ต้นคอร่วมด้วย
ความดันสูงกินยาแก้ปวดหัวได้ไหม
ปกติแล้ว ผู้ป่วยมักจะรับประทานยาพาราเซตตามอลเพื่อลดอาการซึ่งสามารถรับประทานได้ โดยอาจช่วยบรรเทาให้อาการปวดหัวดีขึ้น แต่ไม่ควรรับประทานบ่อยจนเกิดไป เพราะผู้ป่วยในกลุ่มความดันต้องมียาประจำตัวอื่น ๆ ที่ต้องรับประทานด้วย ดังนั้น หากอาการปวดหัวไม่ดีขึ้นควรเข้าพบแพทย์จะดีที่สุด
———————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วิดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวิดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- ปวดหัวตุ้บ ๆ ข้างขวา อาการแบบนี้เป็นไมเกรนหรือเปล่า?
- โรคหลอดเลือดสมอง: สัญญาณอันตรายของอัมพาต
- นั่งนานปวดเอว หากไม่รีบแก้อาจเป็นเรื้อรัง