ปวดหลังเฉียบพลัน ก้มไม่ได้ วิธีแก้ แบบใดที่จะแก้ให้หายขาด?
ปวดหลังเฉียบพลัน ก้มไม่ได้ วิธีแก้ มีอะไรบ้าง? เชื่อได้ว่าเป็นข้อสงสัยของผู้ประสบปัญหาหลาย ๆ คนที่มีอาการปวดหลังส่วนล่าง จนไม่สามารถก้มหลังได้ โดยแน่นอนว่ามีปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้หลายอย่างด้วยกัน แต่สิ่งที่ทุกคนกังวลมักจะเป็นการกลัวว่ากระดูกสันหลังกำลังผิดปกติหรือไม่ โดย อาการปวดหลังส่วนล่าง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยร้อยละ 70-90 จะมีอาการปวดหลังส่วนล่างอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต ประมาณร้อยละ 85 ของกลุ่มผู้ป่วยที่เคยมีอาการปวดหลังส่วนล่าง และเคยได้รับการรักษามาก่อนมักกลับมาเป็นซ้ำอีกจนเป็นอาการปวดเรื้อรัง ซึ่งคนทุกเพศทุกวัยสามารถเกิดปัญหาปวดหลังได้ทั้งหมด
ปวดหลังเฉียบพลัน ก้มไม่ได้ วิธีแก้ มีอะไรบ้าง ที่ช่วยฟื้นฟูอาการได้ไวและมีประสิทธิภาพ
เชื่อว่าเรา ๆ ท่าน ๆ คงเคยมีอาการ “ปวดหลัง” บางคนปวดมาก บางคนปวดน้อย อาจจะมีอาการเป็นวัน หรือบางคนอาจมีอาการเป็นเดือน เช่น ปวดจากการทำงานหนัก มีสาเหตุจากกล้ามเนื้อ มักเกิดจากการทำท่าทางซ้ำ ๆ ในท่าเดิม ๆ โดยทั่วไปเป็นอาการปวดหลังที่ไม่อันตราย ส่วนใหญ่จะดีขึ้นหลังพัก และไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่อาการปวดที่รุนแรง หรือมีอาการนานเป็นเดือน และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน มักจะมาจากสาเหตุที่อันตรายและรุนแรง การปวดหลังลักษณะนี้ต้องรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรีบหาสาเหตุและรักษาอย่างถูกต้อง อาการปวดหลังสามารถแบ่งได้ออกเป็น 3 ส่วนที่มีอาการปวด ได้แก่ ปวดหลังส่วนบน ปวดหลังส่วนกลาง และปวดหลังส่วนล่าง โดยอาการปวดหลังส่วนล่าง (Low back pain) เป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้บ่อยในวัยทำงาน โดยจะมีอาการปวดหลังตั้งแต่ระดับคอลงไปจนถึงบริเวณก้นกบ โดยอาการส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในบริเวณบั้นเอวไปจนถึงก้นกบนั่นเอง
ปวดหลังล่างเฉีบพลัน สาเหตุ มีอะไรบ้าง?
ทุก ๆ คนต้องทราบก่อนว่าการปวดหลังล่างนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ได้เจาะจงเพียงสาเหตุจากกระดูกสันหลังเท่านั้น
การยกของหนัก
สำหรับกลุ่มคนที่ต้องยกของหนักเป็นประจำ มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดอาการปวดหลัง อันเนื่องมาจากน้ำหนักของที่ยกอาจจะมากเกินไป หรือการใช้ท่าทางในการยกของที่ผิด ดังนั้น ควรจะต้องยกของให้ถูกท่า เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากการใช้งาน
อุบัติเหตุ
ไม่ว่าจะเป็น พลัดตกหกล้ม การตกจากที่สูง อุบัติเหตุจราจร รวมถึง กลุ่มที่เกิดการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา อาจทำให้เกิดปัญหากระดูกหัก หรือมีการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ และทำให้ปวดหลังส่วนล่างได้
เนื้องอก
สำหรับอาการปวดหลังล่างที่เกิดจากเนื้องอกหรือมะเร็งลามไปที่หลัง เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่จะทำให้เกิดอาการปวดหลังที่ผิดปกติ โดยที่จะมีอาการปวดค่อนข้างมาก กินยาแก้ปวดแล้วไม่ดีขึ้น เช่น ปวดจนต้องตื่นขึ้นมากลางดึก นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด และเคยมีประวัติเป็นมะเร็งมาก่อน
โรคทางกระดูกสันหลังเสื่อม
พบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ เพราะหมอนรองกระดูกสันหลังและข้อต่อจะมีการเสื่อมสภาพลงตามอายุ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ แต่ถ้ามีการกดเบียดทับเส้นประสาทในช่องโพรงกระดูกสันหลังร่วมด้วย หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า “กระดูกทับเส้น” ก็จะมีอาการปวดหลังล่างร่วมกับมีอาการปวดร้าวลงขา ชาหรืออ่อนแรงได้
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงสาเหตุส่วนหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับกลุ่มคนทั่วไปเท่านั้น ซึ่งในบางท่านที่ชอบออกกำลังกายหรือกลุ่มนักกีฬาก็อาจมีสาเหตุของการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหลังเฉียบพลันได้จากการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายได้เช่นกัน
แนวทางการรักษาปวดหลังเฉียบพลัน มีวิธีใดบ้าง?
สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 วิธีหลัก ๆ ดังนี้
ยา
การใช้ยากลุ่มบรรเทาอาการปวด ยาลดการอักเสบ ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาลดความปวดเส้นประสาท จะถูกจัดให้ตามความเหมาะสม และตามโรคที่คนไข้เป็น แพทย์จะเป็นผู้กำหนดให้เหมาะสมกับตัวโรค และข้อควรระวังในการใช้ยา แต่หากรับประทานยาแก้ปวดแล้วอาการปวดหลังส่วนล่างยังไม่ดีขึ้น ก็จะต้องเพิ่มการรักษาโดยการกายภาพบำบัด หรือทำการรักษาควบคู่กันไป
การผ่าตัด
การรักษาอาการปวดหลังส่วนล่างด้วยการผ่าตัดเป็นวิธีการรักษาขั้นสุดท้ายที่แพทย์จะแนะนำ เมื่อการรักษารูปแบบอื่นๆ ไม่ได้ผล และเป็นโรคที่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการผ่าตัดเท่านั้น เช่น โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท หรือกระดูกสันหลังเสื่อมกดทับเส้นประสาท เป็นต้น
กายภาพบำบัด
เป็นการรักษาที่เน้นการดูแลรักษา แก้ไขความเจ็บปวด ฟื้นฟูสภาพร่างกายของผู้ป่วยให้กลับมาแข็งแรง ทำให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวกมากขึ้น สำหรับผู้ที่ปวดหลังส่วนล่าง แพทย์อาจเพิ่มการรักษาโดยเวชศาสตร์ฟิ้นฟูแบบต่างๆ ที่จะออกแบบโปรแกรมให้กับผู้ป่วยแต่ละคนโดยเฉพาะ ซึ่งมีหลายวิธีด้วยกันดังนี้
- การประคบแผ่นร้อน
- การใช้อัลตราซาวนด์ลดปวด
- การใช้เลเซอร์
- การช็อกเวฟ เพื่อคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวด
- การใช้ธาราบำบัด เป็นการออกกำลังกาย และฟื้นฟูร่างกายที่ไม่ลงน้ำหนักที่หลังมากเกินไป โดยจะมีโปรแกรมให้คนไข้ออกกำลังกายในน้ำ พร้อมด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ
ท้ายที่สุด นี่เป็นเพียงการสันนิษฐานเท่านั้น หากไม่แน่ใจว่าอาการปวดหลังที่เป็นอยู่นั้นเป็นเพราะความผิดปกติของกระดูกสันหลังหรือไม่ ควรตรวจหาสาเหตุของอาการปวดหลัง ด้วยการเอกซเรย์หรือการวินิจฉัยด้วย MRI ซึ่งจะทำให้เห็นรายละเอียดต่างๆ ของโครงสร้างกระดูกสันหลัง ช่วยให้การวินิจฉัยโรคง่ายขึ้น ทำให้ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง เหมาะสมและรวดเร็ว
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- “โรคกระดูกสันหลัง” โรคที่ควรระวังปล่อยไว้อาจส่งผลเสีย
- ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
- “ผ่าตัดกระดูกสันหลัง” กับ 8 คำถามที่ต้องรู้คำตอบ