ปวดเส้นเอ็นคอขึ้นหัว อาการจากออฟฟิศซินโดรมหรือไมเกรนกันแน่?
ปวดเส้นเอ็นคอขึ้นหัว ภาวะที่หลาย ๆ คนอาจกำลังเผชิญ โดยเฉพาะในกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานนาน ๆ โดยไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว จึงทำให้เกิดอาการปวดหลังคอและลามมาบริเวณศีรษะดังที่กล่าวมานั่นเอง ทั้งนี้ อาการเส้นคอตึงมากอาจเกิดจากไมเกรน กล้ามเนื้อตึงตัว หรือภาวะออฟฟิศซินโดรม ทางที่ดีไม่ควรมองข้ามและควรเข้ารับรักษา แต่จะรักษาด้วยวิธีใดได้บ้างนั้น ตามมาดูไปพร้อม ๆ กัน
“ปวดเส้นเอ็นคอขึ้นหัว” ภาวะอาการจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อที่หลายคนไม่รู้
สำหรับอาการปวดคอร้าวขึ้นศีรษะหรือร้าวขึ้นขมับ มักพบได้บ่อยจนหลายคนคิดว่าเป็นอาการของไมเกรน แต่ที่จริงแล้วสาเหตุอาจมาจากกล้ามเนื้อบ่าที่มีการเกร็งตัวก็ได้เช่นกัน ซึ่งอาการที่มาจากกล้ามเนื้อบ่าที่เกร็งตัวของเส้นเอ็นหลังคอมากจนทำให้ปวดร้าวขึ้นศีระษะ มักจะเจอในกลุ่มคนที่มีการใช้กล้ามเนื้อบ่ามาก ๆ หรือนั่งทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานตลอดวัน
โดยอาการเส้นคอตึงจนปวดหัวนี้สามารถพบได้ในคนทั่วไป โดยส่วนใหญ่จะพบในวัยรุ่นหรือวัยทำงาน โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศ โดยอาการเหล่านี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ แต่หลาย ๆ คนเลือกที่จะมองข้าม เนื่องจากคิดว่าอาการเส้นคอตึง ปวดหัวสามารถหายได้เองแต่แท้จริงแล้ว ในบางกรณีจำเป็นจะต้องเข้ารับคำปรึกษาจากทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเและรักษาอย่างถูกวิธี นื่องจากอาจจะเกิดอาการปวดหัวรุนแรง ต่อเนื่อง ปวดบริเวณเดิมซ้ำ ๆ จนปวดร้าวไปทั่วศีรษะ และกลายเป็นภาวะออฟฟิศซินโดรมได้นั่นเอง
ปวดคอร้าวถึงหัว แบบไหนมาจากไมเกรน แบบไหนมาจากไมเกรนออฟฟิศซินโดรม?
กลายเป็นปัญหาที่หลายคนสับสนว่าระหว่าง ปวดหัวไมเกรน กับ ปวดหัวออฟฟิศซินโดรม มันแตกต่างกันยังไง เพราะเมื่อปวดหัวครึ่งซีกเมื่อใด ก็เหมารวมเป็นไมเกรนทุกที ลองมาดูอาการเด่น ๆ ของทั้ง 2 โรคนี้กัน เพื่อจะได้วิเคราะห์อาการเบื้องต้นกันก่อน
สาเหตุและอาการปวดหัวออฟฟิศซินโดรม
ปวดหัวออฟฟิศซินโดรม เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณบ่าตึง เลือดจึงไม่สามารถไหลไปเลี้ยงส่วนศีรษะได้ เมื่อศีรษะขาดเลือดและออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยงก็จะทำให้ปวดศีรษะ แต่ถ้าหมั่นยืดกล้ามเนื้อบริเวณบ่าและคออย่างสม่ำเสมอ อาการปวดก็จะทุเลาลงได้ โดยอาการจะปวดศีรษะร้าวลงสะบัก อาจจะปวดข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้างก็ได้
สาเหตุและอาการปวดหัวไมเกรน
อาการปวดหัวไมเกรน ซึ่งจะปวดศีรษะข้างเดียว สาเหตุเกิดจากสารเคมีในสมองที่ไม่สมดุล แม้จะทำการยืดกล้ามเนื้อก็ไม่สามารถทำให้อาการปวดทุเลาลงได้
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะปวดหัวแบบไหนก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคต่าง ๆ ได้ จึงต้องคอยหมั่นสังเกตอาการของเราดูว่าปวดหัวแบบไหน หรือหากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อเช็กร่างกายเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและทำการรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป
แนวทางการรักษา “อาการปวดเส้นเอ็นหลังคอร้าวถึงศีรษะ”
สำหรับอาการปวดหัวนั้น จากที่ได้กล่าวมาว่ามักเกิดจากสาเหตุของการปวดกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ ดังนั้น แนวทางการรักษาจึงต้องมีความเกี่ยวเนื่องกับต้นตอของปัญหา ซึ่งมีหลายวิธีการรักษา เช่น..
1. รักษาด้วยการใช้ยา
สำหรับคนที่มีอาการออฟฟิศซินโดรมที่เริ่มรุนแรงขึ้นแล้ว อาจต้องได้รับยาในการรักษา เช่น ยาบรรเทาอาการกล้ามเนื้อและเอ็นอักเสบ ยาคลายเครียด โดยยาเหล่านี้ควรผ่านการพิจารณาและสั่งโดยแพทย์ผู้วินิจฉัยเท่านั้น
2. รักษาด้วยเวชศาสตร์ฟื้นฟู
เป็นการรักษาด้วยการใช้เครื่องมือทางกายภาพ เช่น Ultrasound เครื่องดึงคอ หรือการรักษาด้วยการฝังเข็มแบบตะวันตก และการสอนท่าบริหาร เพื่อการป้องกันและรักษา ในเคสที่เป็นมานานเรื้อรังยังมีการสอนหายใจ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อร่วมด้วย
3. รักษาด้วย Shock Wave
คลื่นกระแทก (Shock Wave) เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงในการใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดระยะเรื้อรังที่ผ่านการรักษาต่าง ๆ มาแล้วไม่ดีขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) อาการปวดข้อศอก เอ็นข้อศอกอักเสบ พังผืดฝ่าเท้าอักเสบ ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดสะโพกร้าวลงขา ปวดฝ่าเท้าเรื้อรัง โรครองช้ำ ปวดเอ็นร้อยหวาย ปวดเข่า บาดเจ็บจากกีฬา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวดังกล่าวเป็นเพียงอาการส่วนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น การรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมจึงถูกแบ่งออกได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยยา การปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน การทำกายภาพบำบัด การออกกำลังกายเพื่อรักษาอาการปวด การรักษาด้วยวิธีทางเลือกอื่น ๆ เช่น การฝังเข็ม การนวดแผนไทย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรมควรมาปรึกษาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการ ว่าเกิดจากสาเหตุใด มีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ หรือไม่ เพื่อให้แพทย์รักษาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมกับอาการของแต่ละบุคคลด้วย
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วิดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวิดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- นั่งนาน ปวดหลัง แก้ได้ไม่ยาก
- ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
- ปวดหัว มึนหัว ปวดกระบอกตา คล้ายไมเกรน