ปวดแขนตอนกลางคืน วิธีแก้ ง่าย ๆ เพียงทำตามนี้!
ปวดแขนตอนกลางคืน วิธีแก้ มีอะไรบ้าง? เรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งอาการปวดแขนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ป่วยหลาย ๆ กลุ่มตั้งแต่อายุน้อยไปจนกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งจริง ๆ แล้วในทางการแพทย์ได้ระบุไว้ว่า “การปวดแขน” แม้จะเป็นอาการปวดปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่การปวดในช่วงกลางคืนหรือก่อนนอนนั้นถือเป็นภาวะที่ผิดปกติเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่กล้ามเนื้อได้รับการพักผ่อน ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนได้ทราบถึงภาวะนี้มากขึ้น ในบทความนี้ Newton Em Clinic จึงรวบรวมข้อมูลมาฝาก
ปวดแขนตอนกลางคืน วิธีแก้ มีอะไรบ้าง ไม่อยากเป็นซ้ำจนส่งผลต่อการนอนต้องรักษายังไง?
“อาการปวดแขน” เป็นอาการที่พบขึ้นได้บ่อย โดยเฉพาะผู้ที่ใช้กำลังและกล้ามเนื้อแขนบ่อย ๆ รวมไปถึงนักกีฬา เช่น กอล์ฟ หรือ เทนนิส ที่ก็มีลักษณะการเล่นที่ต้องใช้กล้ามเนื้อบริเวณข้อศอกและแขนด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลาย ๆ คนจะพบเจออาการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม อาการปวดแขนตอนกลางคืนอาจเป็นประสบการณ์ที่น่าหงุดหงิดและก่อกวน ทำให้คุณนอนหลับไม่สนิท อาการปวดอาจมีตั้งแต่ปวดแบบตื้อ ๆ ไปจนถึงรู้สึกแสบ ๆ และอาจส่งผลต่อแขนข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง
ปวดแขนตอนกลางคืนหรือตอนนอน เกิดจาก…
สาเหตุหนึ่งของอาการปวดแขนตอนกลางคืนคือการบาดเจ็บ หากผู้ประสบปัญหาเพิ่งได้รับบาดเจ็บที่แขน เช่น การเคล็ดหรือรัดกล้ามเนื้อหรือเอ็น คุณอาจรู้สึกเจ็บปวดในตอนกลางคืน นี่เป็นเพราะกระบวนการรักษาตามธรรมชาติของร่างกายจะทำงานมากขึ้นระหว่างการนอนหลับ และความเจ็บปวดอาจเด่นชัดขึ้นตามมา
และอีกหนึ่งสาเหตุที่เป็นไปได้อีกประการของอาการปวดแขนตอนกลางคืนคือการใช้งานมากเกินไป หากผู้ประสบปัญหามีงานหรืองานอดิเรกที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ เช่น การพิมพ์หรือเล่นเครื่องดนตรี ผู้ประสบปัญหาอาจรู้สึกเจ็บปวดในตอนกลางคืนอันเป็นผลมาจากความเครียดที่สะสมบนแขนของตนเอง
อาการปวดแขนช่วงกลางคืน ต้องแก้ยังไงจึงจะหาย?
การรักษาอาการปวดแขนตอนกลางคืนขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง หากความเจ็บปวดเกิดจากการบาดเจ็บ การพักผ่อน น้ำแข็ง และยาแก้ปวดที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์สามารถช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้ หากความเจ็บปวดเกิดจากการใช้งานมากเกินไป สิ่งสำคัญคือต้องหยุดพักบ่อย ๆ และออกกำลังกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อและเสริมสร้างความแข็งแรงเพื่อช่วยลดความเครียดที่แขน ทั้งนี้ อาจรักษาตามแนวทางต่าง ๆ ดังนี้ได้..
การรักษาโดยการกินยา
โดยทั่วไปแพทย์มักจะให้ยาเพื่อลดอาการปวดชนิดรับประทานในผู้ป่วยที่มีอาการในระยะแรก และมีอาการไม่มากนัก ถ้าหากรักษาด้วยการใช้ยาแล้วยังมีอาการปวดอยู่ แพทย์จะแนะนำให้รักษาด้วยวิธีการอื่น เช่น ฉีดยาเพื่อลดอาการปวดของกล้ามเนื้อ เป็นต้น
การรักษาโดยแพทย์
การรักษาโดยแพทย์มักใช้รักษาอาการปวดข้อศอกที่มีความรุนแรง หรือเป็นผลมาจากภาวะสุขภาพอื่น ๆ ซึ่งจะมีวิธีในการรักษาที่แตกต่างกันออกไปตามสาเหตุของการเกิดอาการและเงื่อนไขสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละคน
การทำกายภาพบำบัด
ในช่วงต้น นักกายภาพบำบัดอาจทำการ การประคบเย็นเพื่อลดอาการปวดในช่วงแรก ๆ จากนั้นจะเริ่มนำอุปกรณ์ทางกายภาพบำบัดมาใช้ เช่น การทำอัลตราซาวด์ช่วยลดอาการปวดและอักเสบ และหลังอาการปวดดีขึ้น การยืดเหยียดกล้ามเนื้อร่วมกับการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง จะช่วยป้องกันการปวดซ้ำในอนาคตได้นั่นเอง
ทั้งนี้ ในบางกรณีที่อาจมีภาวะอาการที่เรื้อรังหรือรุนแรงมาก ๆ อาจต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งในปัจจุบันมีการผ่าตัดผ่านกล้อง (arthroscopic surgery) ซึ่งเป็นวิธีการผ่าตัดที่มีความปลอดภัย แผลผ่าตัดเล็ก และผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็ว
3 ท่ายืดเหยียดแขนทำได้เองที่บ้าน บรรเทาอาการปวดแขนตอนนอน
เนื่องจากอาการเหน็บชานั้นมีหลายระดับอาการ สำหรับผู้ประสบปัญหาที่ภาวะอาการยังไม่รุนแรงมากก็สามารถทำกายบริหารเพื่อบรรเทาอาการก่อนได้ ประกอบด้วย 3 ท่าง่าย ๆ ดังนี้…
- นวดเบาๆ 3-5 นาที บริเวณเส้นประสาทข้อมือ และกล้ามเนื้อ เพื่อยืดคลาย
- ยืดเหยียด ผ่อนคลายข้อมือด้วยการดึงมือไปด้านบน และลงด้านล่าง ทำค้างไว้ราว 15-20 วินาที
- ออกกำลังกายยืดข้อมือ ด้วยการยกดัมเบลขนาดตามความเหมาะสมของแต่ละคน ยกขึ้นและลง เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณข้อมือแข็งแรงขึ้น
ทั้งนี้การยืดเหยียดและออกกำลังกายข้อมือควรทำตามกำลังของแต่ละคน เพราะหากทำผิดท่า หรือหักโหมเกินไปอาจส่งผลเสียต่อข้อมือมากกว่าข้อดี แนะนำว่าควรปรึกษาทีมแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู และทีมนักกายภาพบำบัดร่วมด้วย
สรุปข้อควรรู้เกี่ยวกับ “อาการปวดแขนช่วงกลางคืน”
ท้ายที่สุด อาการปวดแขนและปวดขามาก ๆ จนทำให้นอนไม่หลับเลยนั้น อาจจะเกิดจาก ปวดกล้ามเนื้อจากการใช้งานระหว่างวัน ถ้าปวดมาก อาจต้องนึกถึงสาเหตุว่ามีกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นฉีกขาดร่วมด้วยหรือไม่ หรือถ้าปวดมาก ๆ ลงน้ำหนักไม่ค่อยได้ อาจมีภาวะกระดูกหักหรือเคลื่อน หรือบางครั้งถ้ากล้ามเนื้ออักเสบมากๆ อาจทำให้มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว มีการทำงานของไตที่ผิดปกติได้ หรืออาจเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิดที่มีผลทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ ดังนั้น แนะนำการงดการออกแรงมาก ๆ ไปก่อน กินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ และสังเกตอาการ ถ้าพักหรือกินยาแล้วก็ยังไม่ดีขึ้นเลยนั้น ควรจะต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วีดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวีดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- นั่งนาน ปวดหลัง แก้ได้ไม่ยาก
- ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
- ปวดหัว มึนหัว ปวดกระบอกตา คล้ายไมเกรน