รวม วิตามินบํารุงกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ที่คนออกกำลังกายควรรู้
วิตามินบํารุงกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เป็นสิ่งที่สำคัญที่นักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายจำเป็นต้องรู้เป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นเส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อ ก็ต่างเป็นอวัยวะที่สำคัญในการออกกำลังกายทั้งสิ้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ที่ชื่นชอบในการออกกำลังจะอยากทราบว่าตนเองต้องรับประทานวิตามินอะไรเพื่อบำรุงอวัยวะดังกล่าวให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เพื่อไขข้อสงสัยให้แก่หลาย ๆ คน Newton Em Clinic จึงรวบรวมเหล่าวิตามินที่จำเป็นสำหรับผู้ออกกำลังกายและนักกีฬามาฝาก เพื่อให้สามารถศึกษาและนำไปเลือกรับประทานได้ในชีวิตประจำวัน
วิตามินบํารุงกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ที่คนออกกำลังกายต้องทาน มีอะไรบ้าง?
การออกกำลังกายอาจทำให้เพื่อน ๆ เจ็บกล้ามเนื้อได้ในบางครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากร่างกายออกกำลังกายในรูปแบบใหม่ เช่น ลองเล่นกีฬาใหม่ หรือเพิ่มความเข้มข้นหรือระยะเวลาของกิจกรรมที่ร่างกายคุ้นเคย ซึ่งการหดตัวผิดปกติในระหว่างที่กล้ามเนื้อยืดออกอาจทำให้เกิดอาการปวดได้ แถมเพื่อน ๆ บางคนอาจจะแพ้ยาคลายกล้ามเนื้ออีกด้วย ดังนั้นเรามาดูกันว่าวิตามินบำรุงกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง
วิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงการทำงานของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ
วิตามินที่เหมาะกับคนออกกำลังกายและนักกีฬานั้นมีหลายชนิดด้วยกัน เช่น
วิตามินบี
โดยเฉพาะวิตามินบี 6 โฟเลต และวิตามินบี 12 เป็นวิตามินที่เชื่อกันว่ามีความสำคัญที่สุดในการสร้างและฟื้นฟู กล้ามเนื้อ โดยวิตามินบี 6 และบี 12 มีบทบาทโดยตรงในการเผาผลาญโปรตีน การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่า ยิ่งมีการบริโภคโปรตีนมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งต้องการวิตามินบี 6 มากขึ้น เพื่อช่วยในการเผาผลาญโปรตีนที่เพิ่มขึ้น วิตามินบียังจำเป็นในการสร้างเม็ดเลือดแดงและเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้จำเป็นอย่างมากในการสร้างและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ การกินกรดโฟลิก (วิตามินบี 9) ร่วมกับวิตามินบี 6 และ 12 สามารถช่วยลดระดับของโฮโมซิสเทอีน (สารที่เกิดจากการย่อยสลายโปรตีน ซึ่งหากมีในระดับที่มากเกินไป จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย) และทำให้การสร้างไนตริกออกไซด์ (โมเลกุลที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเลือดในร่างกาย) ดีขึ้น ผลก็คือทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และการส่งสารอาหารไปยังกล้ามเนื้อทำได้ดีขึ้น
วิตามินซี
ด้วยคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ทำให้วิตามินซีทำหน้าที่ในการปกป้องกล้ามเนื้อจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระ และยังทำหน้าที่ช่วยในการสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และอนาบอลิกฮอร์โมน (ฮอร์โมนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ) นอกจากนี้ วิตามินซียังช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นสารเริ่มต้นในการสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ทำให้วิตามินซีมีความสำคัญมากในการป้องกันกล้ามเนื้อและกระดูกจากการบาดเจ็บ เมื่อคอลลาเจนแข็งแรง ข้อต่อต่าง ๆ จะมีความสามารถในการรับน้ำหนักได้มากขึ้น จึงมีโอกาสบาดเจ็บน้อยลง การศึกษาชิ้นหนึ่งที่มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา ในสหรัฐฯ นักวิจัยพบว่า การกินอาหารเสริมวิตามินซีก่อนและหลังการออกกำลังกาย ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ และป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นที่ทำให้กลูต้าไธโอน (สารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังในร่างกาย) ลดลง
วิตามินดี
มีความสำคัญในการสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่า อาหารเสริมวิตามินดีช่วยเพิ่มพลังงานอย่างมีนัยสำคัญในผู้ใหญ่ เมื่อใช้ควบคู่ไปกับโปรแกรมการฝึกกล้ามเนื้อ ส่วนการศึกษาชิ้นหนึ่งในกลุ่มผู้ชายที่มีระดับเทสโทสเตอโรนต่ำ พบว่าอาการเสริมวิตามินดี ช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรนได้ถึง 20% นอกจากผลกระทบต่อเทสโทสเตอโรนและกล้ามเนื้อแล้ว วิตามินดียังทำให้กระดูกแข็งแรง และถือเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูก วิตามินดียังช่วยในเรื่องโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่สำหรับผู้ที่มีวิตามินดีเพียงพออยู่แล้วในร่างกาย การกินวิตามินดีเพียงอย่างเดียว จะไม่มีผลต่อกล้ามเนื้อ ส่วนคนที่ขาดวิตามินดี ถ้ากินวิตามินดีร่วมกับแคลเซียม ก็จะทำให้กล้ามเนื้อขา กล้ามเนื้อบริเวณสะโพกแข็งแรงขึ้น
วิตามินเอ
คนมักมองวิตามินเอว่ามีความสำคัญต่อสุขภาพตา แต่มักละเลยความสำคัญต่อสุขภาพกล้ามเนื้อและกระดูก สำหรับนักกีฬาที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ วิตามินเอมีความสำคัญในการสังเคราะห์โปรตีน ที่จำเป็นต่อการเติบโตของกล้ามเนื้อ ระดับวิตามินเอจะลดลงในขณะที่มีการสังเคราะห์โปรตีนเพิ่มขึ้น จึงเป็นข้อเท็จจริงที่เชื่อมโยงกันว่า ระดับของวิตามินเอนั้นจำเป็นต่อการย่อยสลายโปรตีนในระหว่างกระบวนการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ วิตามินเอยังมีความสำคัญของเทสโทสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สำคัญอย่างมากในการสร้างกล้ามเนื้อ และวิตามินเอยังช่วยในการเสริมสร้างกระดูก และกระตุ้นเซลล์ที่เกิดใหม่ให้เติบโตเร็วขึ้นด้วย
วิตามินอี
คนส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่า วิตามินอีมีบทบาทในการซ่อมแซมผิว ช่วยในการเยียวยารอยแผลหรือจัดการปัญหาผิว แต่ข่าวดีก็คือ วิตามินอียังมีประสิทธิภาพมากกว่านั้นสำหรับกล้ามเนื้อ จากการที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกาย การออกกำลังกายอย่างหนักทำให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย เมื่ออนุมูลอิสระเหล่านี้สะสมตัวเพิ่มขึ้น ร่างกายจะมีสารพิษมากขึ้น ทำให้การทำงานของร่างกายเสื่อมถอยลง รวมถึงการสร้างกล้ามเนื้อและการฟื้นฟูกล้ามเนื้อด้วย วิตามินอีจะจัดการอนุมูลอิสระเหล่านี้ และกำจัดมันออกจากร่างกาย เมื่อมีอนุมูลอิสระลดลง ก็จะลดความเสียหายต่อกล้ามเนื้อลงได้ด้วย
เกร็ดสุขภาพในการทานวิตามินบำรุงเอ็นและกล้ามเนื้อ
การใช้วิตามินบำรุงกล้ามเนื้อนั้นก็เป็นแนวทางหนึ่งในการดูแลสุขภาพกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น แต่การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อกล้ามเนื้อก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อน ๆ จึงควรหาอาหารต่อไปนี้มารับประทาน
1. อาหารที่อุดมด้วยโปรตีน
หลังจากได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย ทำให้ต้องพึ่งพายาคลายกล้ามเนื้อ เนื่องจากร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บมักจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แล้วทำให้ความแข็งแรงและมวลกล้ามเนื้อลดลง อย่างไรก็ตาม การได้รับโปรตีนเพียงพอสามารถช่วยลดการสูญเสียนี้ได้ นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงอาจช่วยป้องกันการอักเสบไม่ให้แย่ลงและทำให้การฟื้นตัวเร็วขึ้น
2. ผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี
วิตามินซีเป็นวิตามินบำรุงกล้ามเนื้อที่ช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนซึ่งรักษาความสมบูรณ์ของกระดูก กล้ามเนื้อ ผิวหนัง และเส้นเอ็น
ท้ายที่สุด ในการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและสุขภาพ นักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกาย อาจให้ความสำคัญกับระบบการฝึก การออกกำลังกายเพิ่มกล้าม และจัดอาหารที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งจริง ๆ เเล้ว เราควรจะได้รับสารอาหารทั้งหมดจากอาหาร เเต่อย่างไรก็ตาม อาหารตามธรรมชาติที่เราทานอาจไม่สามารถให้วิตามินดังกล่าวกับเราได้สมบูรณ์เเบบ 100% ดังนั้น วิตามินบำรุงกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น จึงอาจเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ช่วยให้ผู้ที่ต้องการบำรุงบรรลุเป้าหมายได้นั่นเอง
ทั้งนี้ สำหรับใครที่อาจยังไม่มั่นใจว่า หากรับประทานวิตามินเหล่านี้แล้วจะได้ผลหรือไม่ ก็ควรสอบถาม แพทย์ เภสัชกร หรือนักกายภาพที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องกล้ามเนื้อเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มขึ้น และสามารถดูแลตนเองได้อย่างถูกวิธี ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยในการดูแลอวัยวะทั้ง 2 อย่างนี้ในขณะออกกำลังกายอีกด้วย
——————————–
ข้อควรระวัง: เนื้อหาในบทความ วิดีโอ ข้อความคิดเห็น มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อทดแทนการเข้ารับการตรวจ วิเคราะห์ และการวางแผนการรักษาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เข้าชมไม่ควรวินิจฉัย หรือ คาดเดาโรคด้วยตัวเองจากการอ่านบทความ ข้อคิดเห็น หรือ ดูวิดีโอ นี้ คนไข้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของตนเองเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด และเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดที่อาจเกิดเพิ่มมากขึ้นในภายหลัง
บทความที่น่าสนใจ
- “บำรุงกล้ามเนื้อ” ด้วยอาหาร 6 ชนิดนี้-ช่วยให้แข็งแรงขึ้น
- ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Myofascial Pain Syndrome)
- กล้ามเนื้อฉีก จากการออกกำลังกาย บรรเทาปวดยังไงได้บ้าง?